พาลูกไปหาหมอฟัน

คุณพ่อคุณแม่อาจจะมีข้อสงสัยว่าควรพาลูกไปพบหมอฟันเมื่อไหร่ดี แล้วก่อนพาลูกไปหาหมอฟัน คุณพ่อคุณแม่ควรต้องรู้หรือเตรียมตัวอะไรบ้าง เพื่อให้การพาลูกมาพบหมอฟันราบรื่น และเพื่อให้เด็กมีประสบการณ์ที่ดีในการทำฟัน หรือทันตกรรมเด็ก ทพญ.ณัฐรัตน์ กาญจนบุญเจริญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมทั่วไป และ จัดฟัน รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย มีข้อแนะนำมาฝากกันค่ะ

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ ก่อนพาลูกมาพบหมอฟัน

  1. เพื่อเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีในการทำฟันของเด็ก ๆ ควรพาควรเริ่มพาเด็กมาพบหมอฟัน ตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น หรือช้าสุด
    ไม่เกิน 1 ขวบปีแรก แม้เด็กยังไม่มีฟันผุ
  2. บอกลูกตามความจริงว่าจะพาไปพบหมอฟัน อย่าโกหกว่าจะพาไปเที่ยว หรือพาไปซื้อของเล่น เพราะเด็กจะคาดหวัง และเมื่อรู้ความจริงว่าพามาพบหมอฟัน เด็ก ๆ มักจะร้องและต่อต้าน
  3. คุณพ่อคุณแม่อาจเล่านิทานหรือแต่งนิทานเกี่ยวกับหมอฟันเด็กให้ลูกฟัง เช่น ป๋องแป๋งมาหาป้าหมอ หรือหนูริ่งเพิ่มพลังฟัน กับคุณลุงหมอฮีโร่ พอมาถึงร้านทำฟัน ก็บอกเด็กว่ามาถึงร้านป้าหมอ หรือคุณลุงหมอแล้ว
  4. ควรพาเด็กๆ มาถึงร้านทำฟันก่อนเวลานัดเล็กน้อย ให้เด็ก ๆ ได้มีเวลามาเล่นของเล่น หรือระบายสีระหว่างรอทำฟัน เพื่อให้เด็กเกิดความผ่อนคลายก่อนเข้าไปพบคุณหมอฟัน
  5. อย่าปลูกฝังความกลัวในการทำฟัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรขู่ลูก เช่น ถ้าดื้อจะพาไปให้หมอถอนฟัน หรือฉีดยา เพราะเป็นการสร้างทัศนคติไม่ดีต่อการมาพบหมอฟัน เด็กจะรู้สึกกลัว และไม่ให้ความร่วมมือ นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ ไม่ควรใช้รางวัล เป็นเครื่องมือในการพามาพบหมอฟัน เพราะครั้งต่อไปเขาจะต่อต้าน จะทำให้พามาพบคุณหมอจะยากกว่าเดิม
  6. อย่าคิดว่าการรักษาฟันน้ำนมไม่คุ้มค่า ฟันน้ำนมที่หลุดเมื่อถึงอายุที่สมควรหลุดจริง ทำให้ฟันแท้ขึ้นได้ตรง ไม่ซ้อนเก ไม่ผุง่าย
  7. ควรเตรียมร่างกายของเด็กให้พร้อม เช่น ไม่พามาในช่วงเวลานอนกลางวัน เพราะเด็กอาจจะร้อง หรืองอแง ง่วงนอน และไม่ควรพาเด็กมาหาหมอฟันในขณะที่เด็กไม่สบาย ไอ เจ็บคอ เพราะเด็กจะรู้สึกไม่สบายตัว และไม่ให้ความร่วมมือกับคุณหมอ
  8. ควรงดอาหารก่อนการทำฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง และงดนม (ซึ่งย่อยยากกว่า) อย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอาเจียนขณะทำฟัน ในกรณีที่เด็กอาเจียนง่าย เด็กๆสามารถทานน้ำมาได้บ้างเล็กน้อย พอเด็กทำฟันเสร็จ จะสามารถกินอาหารอ่อนได้เลย หรืองดต่อไปอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง
  9. เมื่อทันตแพทย์ ขอร้องให้ผู้ปกครองออกไปรอข้างนอกห้องทำฟัน กรุณาปฏิบัติตามเพราะพฤติกรรมเด็กส่วนใหญ่จะดีขึ้น ร่วมมือกับ ทันตแพทย์มากขึ้น เมื่อผู้ปกครองรอข้างนอก
  10. หากลูกร้องไห้ขณะทำหัน อย่าถามลูกว่าเจ็บไหม ร้องไห้ทำไม เพราะคำถามนี้ส่งผลในเชิงลบทั้งสิ้น ควรปล่อยให้ทันตแพทย์เป็นผู้จัดการสถานการณ์ในขณะนั้นเอง
  11. ควรพาผู้ที่มีหน้าที่ในการแปรงฟันให้กับเด็กมา มาพบหมอฟัน พร้อมกับเด็กด้วย เพราะคุณหมอจะได้สอนวิธีแปรงฟันและทำความสะอาดช่องปากเด็กให้ เพื่อจะได้กลับไปทำความสะอาดฟันให้เด็กได้อย่างถูกวิธี

แม้ฟันของเด็กๆจะเป็นฟันน้ำนม แต่เราก็ไม่ควรละเลย เพราะฟันของพวกเขาเปราะบาง และอ่อนแอกว่าฟันแท้มาก จึงควรดูแลฟันให้สะอาดและพามาพบทันตแพทย์เป็นประจำ โดยสามารถพาลูกมาพบทันตแพทย์ทุก ๆ 3-6 เดือน โดยขึ้นอยู่กับความเสี่ยงในการเกิดฟันผุของเด็กแต่ละคน โดยเฉพาะเด็กที่มีความเสี่ยงในการเกิดฟันผุค่อนข้างสูง หรือยังทำความสะอาดช่องปากได้ไม่ดี อาจจะต้องพบทันตแพทย์เร็ว หรือบ่อยขึ้น

ที่โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย คุณหมอฟันใจดี และมือเบา พาเด็กๆมาเช็กสุขภาพฟันกันนะคะ

 

ติดต่อศูนย์ทันตกรรม รพ. วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย โทร. 02-441-7899 หรือ 1792
หรือติดต่อได้ผ่านช่องทาง Line
หรือสามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาได้เลยค่ะ