มะเร็งตับ ถือเป็นมะเร็งที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นมะเร็งที่พบได้มากที่สุดและเป็นมะเร็งที่เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ในประเทศไทย เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในเพศชาย และพบมากเป็นอันดับ 3 ในเพศหญิง ผู้ที่เป็นมะเร็งตับระยะรุนแรง มีโอกาสที่จะเสียชีวิตถึง 87% เพราะฉะนั้นเราทุกคนควรดูแลตัวเองมากขึ้น คอยสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกาย หากมีสัญญาณเตือน ปวดท้อง เบื่ออาหารติดต่อกันเป็นเวลานาน อย่าชะล่าใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์
มะเร็งตับจะเริ่มแสดงอาการเมื่อไหร่
- มะเร็งตับ ระยะเริ่มต้น เซลล์มะเร็งจะมีขนาด 2-3 เซนติเมตร ช่วงนี้จะยังไม่แสดงอาการใด ๆ ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าตัวเองมีเชื้อหรือมีเซลล์มะเร็งตับอยู่ในร่างกาย ซึ่งถ้าตรวจเจอตั้งแต่ระยะแรก ๆ สามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้ สำหรับระยะเริ่มต้นผู้ป่วยจะรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งตับ เมื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพ
- หากเซลล์มะเร็งเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น ประมาณ 10 เซนติเมตร จะเริ่มมีอาการแสดงออกมา
สัญญาณเตือนมะเร็งตับมีอะไรบ้าง
มะเร็งตับในระยะแรกนั้นมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อโรคมะเร็งโตมากขึ้น ผู้ป่วยอาจมีอาการ
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- น้ำหนักลด อย่างรวดเร็ว
- ท้องอืด
- ปวดหรือเสียวชายโครงด้านขวา
- จุกเสียดแน่นท้อง
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- อาจปวดร้าวไปยังไหล่ขวาหรือใต้สะบักด้านขวา
เมื่อมะเร็งทำลายหน้าที่ของตับมากขึ้นหรือเกิดการอุดตันของท่อน้ำดี ผู้ป่วยอาจจะมีอาการ
- ตัวเหลือง
- ตาเหลือง สังเกตจากตาขาวที่มีสีเหลืองมากขึ้น
อาการตัวเหลือง ตาเหลืองเกิดขึ้นเนื่องจากตับมีหน้าที่ในการผลิตน้ำดี และถูกส่งต่อมาเก็บที่บริเวณถุงน้ำดี จากนั้นจึงส่งต่อไปยังลำไส้ เมื่อตับทำงานผิดปกติ จะทำให้เกิดการอุดตัน น้ำดีจะย้อนกลับไปที่ตับ เข้าสู่กระแสเลือดและกระจายทั่วร่างกาย ทำให้มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง
- ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม
- ภาวะที่มีน้ำในช่องท้อง หรือที่เรียกว่า ท้องมาน
- ม้ามโต ท้องโต โดยไม่ทราบสาเหตุ
- ขาบวม
- อุจจาระเป็นเลือด หรือถ่ายออกมาอุจจาระมีสีดำ เหนียว เป็นยางมะตอย
- อาเจียนเป็นเลือด
- ไข้ต่ำ ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ครั่นเนื้อครั้นตัว และมีอาการแบบเรื้อรัง ทายยาแล้วไม่ดีขึ้น
- คลำก้อนได้ที่ท้อง โดยเฉพาะบริเวณมุมขวาบน หรือใต้ชายโครงด้านขวา
หากใครที่สังเกตอาการตัวเองพบว่ามีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหรือทำการรักษาต่อไป เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ มะเร็งอาจจะแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้ โดยการแพร่กระจาย แบ่งออกเป็น
- มะเร็งตับระยะลุกลาม ซึ่งมีก้อนเนื้อมากกว่าหนึ่งก้อน และแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง แต่ยังไม่แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย
- มะเร็งตับระยะลุกลาม ซึ่งมีก้อนเนื้อมากกว่าหนึ่งก้อน ซึ่งอาจแพร่กระจายหรือไม่แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง แต่อาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ปอด และกระดูก
หากมะเร็งอยู่ในภาวะลุกลาม อาจจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่อาจจะช่วยบรรเทาอาการของโรคให้ทุเลาลง และอาจช่วยยืดอายุของผู้ป่วยได้ เพราะฉะนั้นหากสังเกตอาการตัวเอง หากพบความผิดปกติเพียงเล็กน้อย ควรปรึกษาแพทย์ หรือควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ตรวจเจอความผิดปกติตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงทีและเหมาสม
ขอบพระคุณข้อมูลจาก
นพ.ศิษฎา หาญสุรนันท์
แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา
คลินิกมะเร็ง รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
สำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งตับ หรือมีญาติ หรือคนรู้จักเป็นมะเร็งตับ สามารถขอเข้ารับคำปรึกษาที่คลินิกมะเร็ง รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อยได้ทุกวัน โดยแพทย์จะประเมินจากระยะของมะเร็งของท่าน ซึ่งหากเข้ามาปรึกษาตั้งแต่เริ่มต้น ก็สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งแพทย์จะให้คำปรึกษา และวางแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
ติดต่อ คลินิกมะเร็ง
รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย 02-441-7899
หรือ1792 /ติดต่อผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือสามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาได้เลยค่ะ