ไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย สามารถเกิดได้ทั้งปี แต่จะมีอยู่ 2 ช่วงที่จะมีการระบาดเยอะ คือช่วงหน้าฝน กับหน้าหนาว ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส Influenza, Flu โดยสายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ จะแบ่งออกได้เป็นทั้งชนิด A,B และ C
ไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์พบได้บ่อย ได้แก่ สายพันธุ์ A 2 สายพันธุ์ และสายพันธุ์ B 2 สายพันธุ์ การแบ่งสายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A จะแบ่งย่อยออกไปตามชนิดของโปรตีนบนผิวของไวรัส ซึ่งโปรตีนก็จะประกอบไปด้วย โปรตีน H กับ โปรตีน N ทำให้เราได้ยินชื่อ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ว่า
- สายพันธุ์ A/N1H1
- สายพันธุ์ A/H3N2
ส่วนสายพันธุ์ B ก็จะแบ่งออกได้อีก 2 สายพันธุ์
- สายพันธุ์ B ตระกูล Victoria
- สายพันธุ์ B ตระกูล Yamagata
เพราะฉะนั้นการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ต้องฉีดให้ตรงกับเชื้อไวรัสที่ก่อโรค ยกตัวอย่างเช่น หากเราเคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/ N1H1 ไปแล้ว แต่เราได้รับเชื้อ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/H3N2 เข้ามา ก็อาจทำให้เกิดอาการป่วยได้ เนื่องจากเป็นเชื้อตัวใหม่ที่เรายังไม่มีภูมิคุ้มกัน
ไข้หวัดใหญ่ กับไข้หวัดธรรมดาแตกต่างกันอย่างไร
ไข้หวัดใหญ่ คือไข้หวัดที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แล้วทำให้เกิดอาการรุนแรงมากกว่า โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ชนิด A ซึ่งจะมีอาการรุนแรงมากกว่า ชนิด B และชนิด C อาการโดยรวมของไข้หวัดใหญ่
- มีไข้สูงกว่าไข้หวัดธรรมดา
- มีอาการเมื่อยเนื้อยเมื่อยตัวมาก
- มีอาการปวดศีรษะ
- แต่อาการพื้นฐานทั่วไปก็จะใกล้เคียงกัน เช่น มีน้ำมูก เจ็บคอ
ความรุนแรงไข้หวัดใหญ่
สำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง หากได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่ อาจจะสามารถหายเองได้ หากได้รับการดูแลตัวเอง ดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนอย่างเพียงพอ
กลุ่มเสี่ยงหากได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่ จะทำให้มีอาการรุนแรงมากกว่าปกติ หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคประจำตัวได้ รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ได้แก่
- เด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน
- ผู้สูงอายุ อายุมากกว่า 65 ปี
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบ โรคหืดหรือโรคเรื้อรังต่าง ๆ
- ผู้ที่ตั้งครรภ์
กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้หากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ อาจทำให้เชื้อลงไปที่ปอด และเกิดภาวะอาการปอดติดเชื้อที่รุนแรงได้
ข้อสังเกตว่าเราติดไข้หวัดใหญ่หรือเปล่า?
ให้สังเกตว่าไข้สูงมากหรือเปล่า รู้สึกเมื่อยตัวมากผิดปกติ และอ่อนเพลีย หมดแรง ต้องนอนพัก ถือเป็นสัญญาณเตือนที่บอกว่าเราอาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ควรรีบไปพบแพทย์
ไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน
ซึ่งวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในปัจจุบัน จะมีทั้งครอบคลุม 3 สายพันธุ์ หรือ 4 สายพันธุ์ ซึ่งการเข้ารับวัคซีนต้องพิจารณาว่าเราได้รับวัคซีนสายพันธุ์ไหนไปบ้าง และในแต่ละปีไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดคือสายพันธุ์ไหน ใช้สายพันธุ์เดียวกับเราฉีดไปหรือเปล่า หากเรารับวัคซีนตรงกับเชื้อก็จะสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ หรือหากมีการติดเชื้อผลของอาการก็จะรุนแรงน้อยกว่าผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
ใครบ้างที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
- ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
- หญิงตั้งครรภ์ และผู้หญิงที่อยู่ในระยะ 2 สัปดาห์หลังคลอด
- ผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องดูแลต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน หัวใจ ปอด หรือผู้ที่มีความผิดปกติของตับและไต
การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีประโยชน์อย่างไร
- สามารถป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีครอบคลุมทั้งสายพันธุ์ A,B และ 4 สายพันธุ์
- ลดอัตราการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
- ลดปัญหาจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและผู้ป่วยเรื้อรัง
- ลดการใช้ยาปฎิชีวนะจากภาวะแทรกซ้อนในการติดเชื้อแบคทีเรีย
- ลดค่าใช้จ่ายในการรักษา
- ลดการขาดงานหรือขาดเรียน
- ลดอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
- ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่
ติดต่อ รพ. วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย โทร. 02-441-7899 หรือ 1792
หรือติดต่อได้ผ่านช่องทาง Line
หรือสามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาได้เลยค่ะ