ไม่อยากให้ลูกแพ้ ตรวจหาโรคภูมิแพ้ ด้วยวิธีไหนได้บ้าง

ไม่อยากให้ลูกแพ้ ต้องทดสอบสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งอาการแพ้ของเด็ก อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เกิดจากการที่ร่างกายของคนเรามีปฎิกริยาตอบโต้ต่อสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ อาทิ ไรฝุ่น อาหารทะเล ไข่ขาว ไข่แดง นมวัว ไรฝุ่น สุนัข แมว หรือสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ซึ่งสามารถหาสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ ด้วยการทดสอบภูมิแพ้ ซึ่งการตรวจโรคภูมิแพ้ หรือทดสอบสารก่อภูมิแพ้ มีวิธีไหนบ้าง คุณหมอ (พญ.ธันยธร พิสิฐบัณฑูรย์) กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และระบบภูมิคุ้มกัน รพ.วิชัยเวชฯ​อ้อมน้อย อธิบายแบบง่าย ๆ ให้ทราบกันค่ะ

การทดสอบภูมิแพ้ที่ใช้กันในปัจจุบัน มีวิธีการหลัก ๆ อยู่ 2 ชนิด ได้แก่

  1. การสะกิดผิวหนัง หรือ Skin Prick Test โดยจะทำการหยอดสารก่อภูมิแพ้ ลงบริเวณท้องแขน หรือบริเวณหลัง และจะทำการสะกิดบริเวณจุดที่เราหยอดไว้ หากมีอาการแพ้ จะมีลักษณะบวม แดงบริเวณที่ทำการทดสอบ

ข้อดี : รู้ผลเร็ว ได้ภายใน 15-20 นาที

  1. การเจาะเลือดเพื่อหาสารก่อภูมิแพ้

ข้อดี : ผู้ป่วยไม่ต้องโดยสารก่อภูมิแพ้เลย เพราะฉะนั้นจะมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง

เพราะฉะนั้นการที่เราทราบสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการแพ้ต่าง ๆ จะทำให้คุณหมอสามารถวินิจฉัยตัวโรคได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

ใครบ้างที่ควรจะทดสอบหาสารก่อภูมิแพ้

  • คนที่แพ้อาหาร ทานแล้วจะมีอาการลมพิษขึ้น ปากบวม หน้าบวม หายใจไม่ออก
  • คนที่แพ้สารก่อภูมิแพ้ทางอากาศ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการ จาม คัน คัดจมูก น้ำมูกไหล หรือหอบหืดเป็นประจำ

วิธีการรักษาโรคภูมิแพ้

หลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดใดก็ตาม วิธีในการรักษาคือ

  • สำคัญที่สุด หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่ตัวเองแพ้ เช่น ในผู้ป่วยแพ้อาหาร ถ้ารู้ว่าแพ้อะไร แทนที่จะต้องหลีกเลี่ยงอาหารหลาย ๆ อย่าง ก็อาจจะหลีกเลี่ยงตัวที่แพ้แค่ตัวเดียว
  • การใช้ยา ตามแต่ละโรคของภูมิแพ้ เช่น เป็นภูมิแพ้เยื่อบุจมูกอักเสบ ยาหลักก็อาจจะเป็นยาพ่นจมูก ล้างจมูก  หรือใช้ยาแก้แพ้ หรือเป็นหอบหืด ก็จะใช้ยาพ่นเข้าไปในปาก เพื่อให้ยาเข้าไปสู่ปอดได้ดี หรือกรณีเป็นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ ก็ต้องเน้นเรื่องการดูแลผิวหนัง ให้ความชุ่มชื้นผิวหนัง ซึ่งโลชั่น หรือยาทาจะมีความสำคัญมาก

ไม่อยากให้ลูกเป็นโรคภูมิแพ้ ป้องกันได้อย่างไร?

คุณหมอจะแนะนำว่าตั้งแต่คุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ แนะนำให้คุณแม่ทานอาหารในรูปแบบของบาลานซ์ไดเอท คือไม่โด๊ป และก็ไม่งดอะไร หลังจากที่คลอดออกมา ก็จะแนะนำให้ทานนมแม่ และสามารถให้อาหารตามวัยได้เมื่ออายุ 4-6 สัปดาห์ และให้ดูแลผิวหนัง ทาโลชั่นตั้งแต่ยังเด็ก ก็จะลดการเกิดโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบได้ รวมถึงแนะนำให้ฉีดวัคซีน เพราะบางโรคของภูมิแพ้ โดยเฉพาะหอบหืด ถ้าเกิดมีอาการปอดอักเสบ หรืออาการไข้หวัดใหญ่เข้ามาจะทำให้ตัวโรครุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นวัคซีนที่เน้นมาก คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีน IPD

ติดต่อคลินิกกุมารเวช รพ. วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย โทร. 02-441-7899 หรือ 1792
หรือติดต่อได้ผ่านช่องทาง Line
หรือสามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาได้เลยค่ะ