บทความโดย
นพ.สุภาพงษ์ เอี่ยมอัครวิทย์
แพทย์เฉพาะทาง ศูนย์อายุรกรรม คลินิกหัวใจและหลอดเลือด
การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการออกกำลังกาย หรือที่หลายคนเรียกว่า “เดินสายพานตรวจหัวใจ” คือวิธีวินิจฉัยสุขภาพหัวใจโดยให้ผู้ป่วยออกแรงขณะอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังของแพทย์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือมีปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ
การตรวจนี้ช่วยค้นหาความผิดปกติที่อาจไม่แสดงในขณะพัก เช่น ภาวะหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งหากพบได้เร็ว ก็สามารถรักษาได้ทันท่วงที
ตรวจ EST คืออะไร? ใช้วิธีตรวจอย่างไร?
การตรวจสมรรถภาพหัวใจแบบ EST
EST (Exercise Stress Test) หรือที่หลายคนคุ้นในชื่อว่า “การเดินสายพานตรวจหัวใจ” คือการให้ผู้ป่วย เดินหรือวิ่งบนสายพาน (Treadmill) ขณะติดอุปกรณ์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) วัดความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่อง
แพทย์จะค่อย ๆ เพิ่มความเร็วและความชันของสายพาน เพื่อให้หัวใจทำงานหนักขึ้นทีละระดับ จำลองสถานการณ์เหมือนเวลาเดินเร็ว วิ่ง หรือขึ้นบันไดจริงในชีวิตประจำวัน
ตรวจแล้วรู้อะไร?
- ตรวจพบภาวะ หัวใจขาดเลือด ที่มักไม่แสดงในขณะพัก
- ตรวจพบ หัวใจเต้นผิดจังหวะ เมื่อหัวใจทำงานหนัก
- ใช้คัดกรองอาการ เช่น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย ที่มาจากหัวใจหรือไม่
- ใช้ประเมินว่า ควรตรวจฉีดสีหลอดเลือดหัวใจเพิ่มเติมหรือไม่
ใครบ้างที่ควรตรวจสมรรถภาพหัวใจ?
นพ.สุภาพงษ์ เอี่ยมอัครวิทย์ แพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจ คลินิกหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย แนะนำว่าการตรวจ EST เหมาะกับผู้ที่:
- เหนื่อยง่ายเวลาเดินเร็วหรือขึ้นบันได
- เจ็บแน่นหน้าอกขณะออกแรง
- หัวใจเต้นผิดจังหวะเวลาทำกิจกรรม
- มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันสูง
- มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
- อายุเกิน 40 ปี และต้องการประเมินความเสี่ยง
“บางคนไม่มีอาการเจ็บหน้าอกชัดเจน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเบาหวาน การตรวจด้วยการเดินสายพานสามารถช่วยค้นหาความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ได้”
— นพ.สุภาพงษ์ เอี่ยมอัครวิทย์
รับฟังคำอธิบายจากแพทย์เฉพาะทางหัวใจ
วิดีโอสัมภาษณ์โดย นพ.สุภาพงษ์ เอี่ยมอัครวิทย์
เรื่องการตรวจ EST และการค้นหาหัวใจขาดเลือดในผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อยง่าย
ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนตรวจ EST?
เตรียมตัวอย่างไร?
- งดอาหาร 2–4 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
- สวมเสื้อผ้าที่คล่องตัวและรองเท้ากีฬา
- หลีกเลี่ยงคาเฟอีน บุหรี่ และยาบางชนิดก่อนตรวจ (แจ้งแพทย์ก่อนล่วงหน้า)
ใช้เวลานานไหม?
การตรวจใช้เวลาประมาณ 30–45 นาที
ช่วงที่ เดินสายพานหรือวิ่งสายพาน จะใช้ประมาณ 10–15 นาที และแพทย์จะหยุดทันทีหากเกิดอาการผิดปกติ
เดินสายพานตรวจหัวใจ ต่างจากการตรวจ EKG อย่างไร?
หลายคนอาจสับสนระหว่าง คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) กับ EST ซึ่งแตกต่างกันชัดเจน:
การตรวจหัวใจ | ตรวจตอนพัก | ตรวจตอนออกแรง |
EKG (ทั่วไป) | ✅ | ❌ |
EST (เดินสายพาน) | ❌ | ✅ |
EST จึงเหมาะสำหรับค้นหาความผิดปกติที่แอบแฝงอยู่ขณะหัวใจทำงานหนัก
หลังตรวจแล้วต้องทำอะไรต่อ?
ถ้าผลตรวจปกติ:
- แพทย์อาจแนะนำดูแลสุขภาพและตรวจติดตามเป็นระยะ
ถ้าพบความผิดปกติ:
- ตรวจ Echo หัวใจ หรือ Holter Monitor 24 ชั่วโมง
- ตรวจฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ
- เข้าสู่แผนการรักษา เช่น ขยายหลอดเลือดหรือผ่าตัด
อ่านต่อ:
หัวใจเต้นผิดจังหวะ เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก… ตรวจหัวใจด้วย Echo คลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง
EST ไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่เดินหรือวิ่งบนสายพานไม่ได้ เช่น มีปัญหาข้อเข่ารุนแรง
- ผู้ที่มีโรคหัวใจในระยะวิกฤต
- ผู้ที่อ่อนแรงหรือเจ็บป่วยเฉียบพลัน
แพทย์อาจเลือกใช้การตรวจแบบอื่น เช่น Stress Echo หรือ Nuclear Scan แทน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ตรวจหัวใจด้วยการเดินสายพานเจ็บไหม?
A: ไม่เจ็บ เป็นเพียงการออกแรงเบา ๆ คล้ายกับการเดินเร็ว หรือวิ่งเบา ๆ ขณะติดเครื่องวัดหัวใจ
Q: ถ้าไม่มีอาการ ควรตรวจไหม?
A: หากคุณมีความเสี่ยง เช่น อายุเกิน 40 ปี เบาหวาน ความดัน หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ก็ควรตรวจแม้ไม่มีอาการ
Q: ตรวจบ่อยแค่ไหน?
A: สำหรับผู้ไม่มีอาการหรือไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ควรตรวจปีละครั้ง
ตรวจหัวใจด้วย EST ที่ศูนย์หัวใจวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
หากคุณมีอาการเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก หรือรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจ ขอแนะนำให้เข้ารับการตรวจสมรรถภาพหัวใจ (EST) กับแพทย์เฉพาะทาง นพ.สุภาพงษ์ เอี่ยมอัครวิทย์
ที่ คลินิกหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
- ตรวจโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
- เครื่องมือทันสมัย พร้อมเทคโนโลยีการเดินสายพานแบบมาตรฐาน
- สะดวก ใกล้พุทธมณฑลสาย 4 – กระทุ่มแบน – หนองแขม
ปรึกษาคลินิกหัวใจและหลอดเลือด
โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
พร้อมให้บริการตรวจครบวงจร ใกล้บ้านคุณ
ในพื้นที่อ้อมน้อย กระทุ่มแบน หนองแขม พุทธมณฑล และใกล้เคียง
โทร: 02-441-7899 หรือ1792
แผนที่: ใกล้พุทธมณฑล – หนองแขม – อ้อมน้อย
นัดหมายออนไลน์: Line