งูสวัดคืออะไร? สาเหตุ อาการ อันตรายไหม กี่วันหาย และรักษาอย่างไร

โรคงูสวัด (Shingles / Herpes Zoster) คืออะไร?

โรคงูสวัด หรือ Herpes Zoster คือโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส Varicella Zoster ซึ่งเป็นเชื้อตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส หลังจากที่หายจากอีสุกอีใสแล้ว เชื้อไวรัสจะยังคงหลบซ่อนอยู่ในปมประสาท และสามารถกลับมาก่อโรคได้อีกในภายหลัง เมื่อร่างกายอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันลดลง

โรคงูสวัด เกิดจากอะไร?

โรคงูสวัดเกิดจากการกลับมากำเริบของเชื้อไวรัส Varicella Zoster ที่เคยติดมาก่อน (เช่น ตอนเป็นอีสุกอีใส) โดยไวรัสจะซ่อนตัวในปมประสาท และแสดงอาการอีกครั้งเมื่อภูมิคุ้มกันลดลง

งูสวัดติดต่อกันได้อย่างไร?

งูสวัดไม่สามารถติดต่อกันโดยตรงระหว่างผู้ป่วยงูสวัดด้วยกัน แต่สามารถแพร่เชื้อไวรัสให้กับคนที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อนได้ ทำให้คนนั้นเป็นอีสุกอีใส โดยการสัมผัสของเหลวจากตุ่มน้ำ ไม่ได้เกิดจากการไอหรือหายใจร่วมกัน

งูสวัด ระยะแพร่เชื้อกี่วัน?

งูสวัดสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีผื่นจนกระทั่งตุ่มน้ำแห้งตกสะเก็ด ซึ่งมักใช้เวลาประมาณ 7–10 วัน ระหว่างนี้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับผื่นหรือของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า

ผื่นงูสวัดจะมีลักษณะแบบไหน?

ผื่นงูสวัดมักเริ่มจากอาการปวดหรือแสบร้อนเฉพาะที่ จากนั้นจะเกิดผื่นแดงและตุ่มน้ำใสเรียงตัวเป็นแนวตามแนวเส้นประสาท มักเกิดด้านเดียวของร่างกาย เช่น ลำตัว หน้า หลัง หรือใบหน้า บางรายอาจมีไข้ หนาวสั่นร่วมด้วย

ภาพแสดงผื่นงูสวัดจริง: ตุ่มน้ำใสเรียงตัวเป็นแนว พบได้บ่อยบริเวณลำตัว ใบหน้า และหลัง

 

โรคงูสวัดกี่วันหาย?

โดยทั่วไป โรคงูสวัด (Herpes Zoster) จะใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 2–4 สัปดาห์ ตั้งแต่เริ่มมีอาการเจ็บจี๊ด แสบร้อน ผื่นแดงขึ้นตามแนวประสาท จนกระทั่งผื่นแห้งตกสะเก็ดและหายสนิท
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาหายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น:

ปัจจัยที่มีผลต่อการหายของโรคงูสวัด:

  • อายุ: ผู้สูงอายุอาจใช้เวลานานกว่า และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง
  • ภูมิคุ้มกัน: ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง, เบาหวาน หรือได้รับยากดภูมิ อาจหายช้ากว่าปกติ
  • การเริ่มรักษาเร็ว: หากได้รับยาต้านไวรัสภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังผื่นขึ้น จะช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาการป่วยได้มาก
  • ตำแหน่งที่เกิดผื่น: ถ้างูสวัดขึ้นใบหน้าใกล้ดวงตา หรือหู อาจต้องใช้เวลารักษานาน และเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น ตาอักเสบ หรือหูชั้นในอักเสบ

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจทำให้หายช้า:

ผู้ป่วยบางรายแม้ผื่นจะหายแล้ว แต่อาการเจ็บแสบปวดร้อนยังคงอยู่ ซึ่งเรียกว่า Postherpetic Neuralgia โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ อาจปวดต่อเนื่องนานเป็นเดือนหรือปี หากเกิดที่ตาหรือหู อาจกระทบการมองเห็นหรือการได้ยิน

ตำแหน่งที่พบบ่อยของงูสวัด: ลำตัว หน้าอก ใบหน้า และบางกรณีอาจเกิดบริเวณตาหรือหู

 


คำแนะนำ:

หากสงสัยว่าเป็นงูสวัด หรือเริ่มมีอาการแสบร้อน ผื่นขึ้นเป็นแนว ควรรีบพบแพทย์ เพื่อรับยาต้านไวรัสทันเวลา
เพราะยิ่งรักษาเร็ว → หายเร็ว + ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนได้ดีที่สุด

วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด

วัคซีนงูสวัด (Shingrix) เป็นวัคซีนที่แนะนำสำหรับผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน มะเร็ง หรือผู้ที่เคยเป็นงูสวัดมาก่อน ช่วยลดโอกาสการเป็นซ้ำ และลดความรุนแรงของโรคได้มากกว่า 90%

ดูรายละเอียดแพ็กเกจวัคซีน Shingrix สำหรับผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ลดโอกาสเกิดงูสวัดและอาการปวดเรื้อรังหลังหายจากโรค คลิกที่นี่ 

หากสนใจรับวัคซีนงูสวัดที่ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย สามารถติดต่อสอบถามหรือโทรนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ 02-441-7899 ต่อ 1111,3124 หรือ 1792 นัดหมายออนไลน์: Line

 

คำถามพบบ่อย (FAQ)

Q: งูสวัดอยู่ใกล้คนท้องได้ไหม?
A: ถ้าคนท้องเคยเป็นอีสุกอีใสแล้ว โอกาสติดน้อยมาก แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสตุ่มน้ำโดยตรง

Q: งูสวัดเป็นอีกได้ไหม?
A: เป็นได้อีกหากภูมิคุ้มกันต่ำ

Q: งูสวัดอาบน้ำได้ไหม?
A: ได้ แต่อย่าแกะตุ่มหรือขัดแรง และควรใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้งทันที

หากคุณรู้สึกเจ็บจี๊ดเฉพาะที่ และพบผื่นแดงขึ้นเป็นแนว อย่าชะล่าใจ อาจเป็นสัญญาณของโรคงูสวัด รีบรักษาตั้งแต่ต้นจะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนได้มาก

 

เข้ารับการวินิจฉัยและรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางได้ที่
ศูนย์อายุรกรรม 24 ชั่วโมง รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย

โทร: 02-441-7899  หรือ1792
แผนที่: ใกล้พุทธมณฑล – หนองแขม – อ้อมน้อย
นัดหมายออนไลน์: Line