ระวัง! โรคพิษสุนัขบ้า อาการแบบไหนต้องรีบพบแพทย์ทันที

โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่เกิดจากเชื้อไวรัส Rabies Virus สามารถติดต่อจากสัตว์เลือดอุ่นสู่คน ผ่านการกัด ข่วน หรือเลียบนผิวหนังที่มีแผลเปิด หรือแม้กระทั่งน้ำลายสัตว์ที่เข้าตา ปาก หรือจมูก โรคนี้มีอัตราการเสียชีวิตเกือบ 100% หากเริ่มมีอาการแล้ว จึงเป็นโรคที่ต้องป้องกันตั้งแต่แรก

การติดต่อของโรคพิษสุนัขบ้า

  • ถูกสุนัขหรือแมวที่มีเชื้อกัดหรือข่วน
  • น้ำลายสัตว์เข้าสู่แผลเปิด เยื่อบุตา หรือเยื่อบุปาก
  • สัตว์นำโรคที่พบบ่อย: สุนัข แมว ค้างคาว ลิง

ในประเทศไทย สุนัขเป็นพาหะหลักของโรคพิษสุนัขบ้า แต่ในต่างประเทศ เช่น อเมริกาและฟิลิปปินส์ ค้างคาวและแรคคูนก็เป็นพาหะสำคัญเช่นกัน

ระยะฟักตัวของโรคพิษสุนัขบ้า

โดยทั่วไป 1–3 เดือน หลังถูกกัด แต่บางรายอาจสั้นเพียง 1 สัปดาห์ หรือยาวนานเป็นปี ขึ้นอยู่กับ

  • ตำแหน่งที่ถูกกัด (ใกล้สมอง = ฟักตัวเร็ว)
  • ความรุนแรงของบาดแผล
  • ปริมาณเชื้อที่ได้รับ

ระยะอาการโรคพิษสุนัขบ้าและแนวทางปฏิบัติ

ระยะอาการ ลักษณะอาการ แนวทางปฏิบัติ
ระยะฟักตัว ยังไม่มีอาการ อาจมีปวดหรือคันตรงแผล รีบล้างแผลทันทีด้วยสบู่และน้ำไหลอย่างน้อย 15 นาที และไปพบแพทย์เพื่อประเมินวัคซีน/อิมมูโนโกลบูลิน
ระยะเริ่มมีอาการ ไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คันแผลมากผิดปกติ พบแพทย์ทันที แม้เคยฉีดวัคซีนมาก่อน
ระยะเฉียบพลัน กลัวน้ำ กลัวลม กล้ามเนื้อกระตุก สับสน ก้าวร้าว เป็นระยะอันตรายสูง ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลด่วน
ระยะโคม่า หมดสติ หยุดหายใจ เสียชีวิต ไม่มีวิธีรักษาให้หาย ต้องป้องกันตั้งแต่ก่อนมีอาการ

อาการที่ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

  • ถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน หรือเลียแผล
  • มีบาดแผลใกล้ศีรษะ คอ หรือใบหน้า
  • มีเลือดออกจากแผลหลังถูกสัตว์กัด
  • เริ่มมีอาการปวด คัน หรือชาบริเวณแผลเดิม
  • มีอาการกลัวน้ำ กลัวลม หรือกล้ามเนื้อกระตุก

การรักษาและป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

ขั้นตอนหลังถูกกัด

  1. ล้างแผลทันที ด้วยสบู่และน้ำไหลอย่างน้อย 15 นาที
  2. ทำความสะอาดแผล ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดนไอโอดีน
  3. รีบพบแพทย์ทันที เพื่อพิจารณาฉีดวัคซีนและ Rabies Immunoglobulin (RIG)

RIG จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทันทีในช่วงที่ร่างกายยังสร้างภูมิจากวัคซีนไม่ทัน เหมาะกับแผลลึกหรือใกล้สมอง

วัคซีนพิษสุนัขบ้า

  • ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (IM) – นิยมใช้ในหลายโรงพยาบาล ขนาดวัคซีนมาตรฐาน
  • ฉีดเข้าผิวหนัง (ID) – ใช้ปริมาณวัคซีนต่อเข็มน้อยกว่า เหมาะกับการประหยัดวัคซีน

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า

  • ❌ กินเนื้อสัตว์ปรุงสุกแล้วจะติดโรค → ไม่จริง
  • ❌ โรคนี้มีทางรักษาถ้าเริ่มมีอาการแล้ว → ไม่จริง
  • ❌ ฉีดวัคซีนครั้งเดียวป้องกันได้ตลอดชีวิต → ไม่จริง ต้องฉีดครบตามโปรแกรม

สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในไทย

จากข้อมูลกรมควบคุมโรค พบว่าในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าหลายสิบราย ส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีนหลังถูกกัด และมักเกิดในต่างจังหวัดที่ไม่รีบไปโรงพยาบาล

เมื่อไหร่ควรฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้า

  • ผู้ทำงานใกล้ชิดสัตว์ เช่น สัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่จับสุนัข
  • ผู้เดินทางไปพื้นที่ระบาดสูง
  • เด็กที่ชอบเล่นกับสุนัขหรือแมวจรจัด

FAQ คำถามที่พบบ่อย

Q: พิษสุนัขบ้าตรวจเลือดเจอไหม?
A: ปกติไม่ใช้การตรวจเลือดในการวินิจฉัย ใช้อาการและประวัติเป็นหลัก

Q: ถ้าเคยฉีดครบแล้ว ถูกกัดอีกต้องฉีดใหม่ไหม?
A: ต้องฉีดกระตุ้น 2 เข็มภายใน 3 วันหลังถูกกัด

Q: วัคซีนพิษสุนัขบ้ามีผลข้างเคียงไหม?
A: อาจมีปวดบวมบริเวณฉีด มีไข้ต่ำ แต่หายได้เอง

ทุกนาทีมีค่า! หากถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน หรือเลียแผล ติดต่อ ศูนย์อายุรกรรม 24 ชั่วโมง รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย

ศูนย์อายุรกรรม 24 ชั่วโมง
พร้อมให้คำปรึกษา วางแผนป้องกัน และดูแลคุณอย่างใกล้ชิด
โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
โทร: 02-441-7899  หรือ1792
แผนที่: ใกล้พุทธมณฑล – หนองแขม – อ้อมน้อย
นัดหมายออนไลน์: Line