ปัญหาโรคทางเดินอาหารเรื้อรัง เช่น ปวดท้องเรื้อรัง กรดไหลย้อน หรือท้องอืดบ่อย ๆ เป็นเรื่องที่หลายคนอาจมองข้ามหรือคิดว่าเป็นเพียงอาการชั่วคราว แต่หากปล่อยไว้นาน ๆ โดยไม่หาสาเหตุที่แท้จริง อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงที่คาดไม่ถึงได้ หนึ่งในวิธีที่ช่วยตรวจหาความผิดปกติได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว คือการ ส่องกล้องทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นการตรวจที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้ตรงจุด ยุติปัญหาโรคทางเดินอาหารเรื้อรังได้อย่างทันท่วงที
โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารมีอะไรบ้าง?
- กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease – GERD): เกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก ไอเรื้อรัง และเจ็บคอ
- แผลในกระเพาะอาหาร (Peptic Ulcer): เกิดจากการอักเสบที่เยื่อบุกระเพาะอาหารหรือบริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย pylori หรือการใช้ยาต้านการอักเสบเป็นเวลานาน
- ลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome – IBS): โรคนี้ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสียหรือท้องผูกสลับกัน โดยไม่มีความผิดปกติที่เห็นได้ชัดจากการตรวจ
- โรคโครห์น (Crohn’s Disease) และลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง (Ulcerative Colitis): เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ ทำให้เกิดการอักเสบที่ผนังลำไส้
- มะเร็งระบบทางเดินอาหาร: เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งตับอ่อน ซึ่งหากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้
- โรคตับและถุงน้ำดี: เช่น ตับอักเสบ ไขมันพอกตับ และนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารโดยรวม
- ภาวะการดูดซึมผิดปกติ (Malabsorption): ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไม่เพียงพอ เกิดอาการท้องเสียเรื้อรัง น้ำหนักลด และขาดสารอาหาร
อันตรายของโรคระบบทางเดินอาหาร
โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร หากปล่อยไว้โดยไม่รับการรักษาที่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง ดังนี้:
- แผลในกระเพาะอาหารรุนแรง: หากปล่อยให้แผลลุกลาม อาจทำให้เกิดภาวะกระเพาะทะลุ เลือดออกในทางเดินอาหาร และเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงในช่องท้องได้
- ภาวะขาดสารอาหาร: โรคในระบบทางเดินอาหาร เช่น ภาวะดูดซึมผิดปกติ หรือโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง อาจทำให้ร่างกายขาดวิตามินและสารอาหารที่จำเป็น ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอและเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา
- มะเร็งลุกลาม: มะเร็งระบบทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งกระเพาะอาหารหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ หากไม่ได้รับการตรวจพบและรักษาแต่เนิ่น ๆ จะลุกลามและลดโอกาสในการรักษาให้หายขาด
- ภาวะลำไส้อุดตัน: เกิดจากติ่งเนื้อ เนื้องอก หรือพังผืดที่ทำให้ลำไส้ตีบตัน ส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงและระบบขับถ่ายผิดปกติ หากรุนแรงอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน
- ภาวะเลือดออกภายใน: ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนต้นหรือส่วนล่าง อาจทำให้ผู้ป่วยเสียเลือดมากจนเกิดภาวะช็อกได้
- การติดเชื้อ: การอักเสบเรื้อรังที่ไม่ได้รับการรักษา เช่น โรคโครห์นหรือแผลในกระเพาะอาหาร อาจนำไปสู่การติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้และแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ
ทำไมการส่องกล้องทางเดินอาหารจึงสำคัญ?
- หาสาเหตุอาการผิดปกติได้แม่นยำ: หลายครั้งที่อาการทางเดินอาหารเรื้อรัง เช่น ปวดท้องบ่อย ท้องอืด หรือมีเลือดปนออกมา ไม่สามารถวินิจฉัยได้จากการตรวจภายนอก การส่องกล้องช่วยให้เห็นภาพภายในชัดเจน ทำให้พบสาเหตุได้อย่างถูกต้อง
- ป้องกันและตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มต้น: โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งหากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้
- รักษาและตัดชิ้นเนื้อไปตรวจได้ทันที: นอกจากการตรวจวินิจฉัยแล้ว การส่องกล้องยังสามารถใช้รักษา เช่น ตัดติ่งเนื้อเล็ก ๆ ออกได้ทันทีในขณะทำการส่องกล้อง
- ปลอดภัยและใช้เวลาไม่นาน: ขั้นตอนการส่องกล้องใช้เวลาประมาณ 15-45 นาที ขึ้นอยู่กับประเภทการตรวจ และผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียวกัน
ใครบ้างที่ควรส่องกล้องทางเดินอาหาร?
- ผู้ที่มีอาการปวดท้องเรื้อรัง
- ผู้ที่มีภาวะกรดไหลย้อนเป็นประจำ
- ผู้ที่มีอาการถ่ายเป็นเลือด หรืออุจจาระผิดปกติ
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็งทางเดินอาหาร
- ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
บทความที่เกี่ยวข้อง
ส่องกล้องทางเดินอาหาร ตรวจหาอะไร ใครบ้างควรตรวจ
หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร อย่ารอช้า รีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำปรึกษาและการรักษาที่เหมาะสม
รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจและมาตรฐานการรักษาที่ดีที่สุด เพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดของคุณ
ศูนย์ศัลยกรรมผ่านกล้อง
รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
02-441-7899 ต่อ 1111 , 3124 หรือ1792
ติดต่อผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาได้เลยค่ะ