การเจาะชิ้นเนื้อเต้านม (Core Needle Breast Biopsy) ก้อนเต้านมเป็นอาการผิดปกติที่พบได้บ่อย อาจเกิดจากถุงน้ำในเต้านม เนื้องอกเต้านมชนิดธรรมดา เนื้องอกไขมัน(lipoma) หรือ มะเร็งเต้านม ในคนอายุน้อยก้อนที่เต้านมมักเป็นเนื้องอกธรรมดาชื่อ Fibroadenoma ซึ่งการวินิจฉัยแยกโรค แพทย์จะทำการซักประวัติตรวจร่างกาย อัลตราซาวด์แมมโมแกรม และตรวจชิ้นเนื้อหากสงสัยว่าเป็นก้อนมะเร็ง
การตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ทำให้สามารถตรวจพบก้อนได้ตั้งแต่ขนาดเล็ก 1-2 ซม.ควรตรวจหลังจากมีประจำเดือน นับจากวันที่มีประจำเดือนวันแรกประมาณ 3-10 วัน ส่วนผู้อยู่ในวัยหมดประจำเดือน สามารถตรวจได้ตลอดเวลาที่สะดวก หากตรวจพบมีก้อนเต้านมควรพบแพทย์โดยเร็วเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยว่าก้อนที่คลำได้เป็นมะเร็งเต้านมหรือไม่
การวินิจฉัยก้อนที่คลำพบบริเวณเต้านม ประกอบด้วย
- แพทย์ทำการซักประวัติและตรวจร่างกาย
- ตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์
- ตรวจชิ้นเนื้อ หรือเจาะชิ้นเนื้อเต้านม (Core Needle Breast Biopsy)
การเจาะชิ้นเนื้อเต้านม (Core Needle Breast Biopsy) ถือเป็นการตรวจวินิจฉัยมะเร็งเต้านมอีกวิธีหนึ่ง โดยการตรวจชิ้นเนื้อ หรือเจาะชิ้นเนื้อเต้านม มีหลายวิธี ตั้งแต่
- ใช้เข็มเล็กเจาะดูดเซลล์ไปตรวจ ( Fine needle aspiration )
- ตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดใหญ่ ( Core needle biopsy )
- ผ่าตัดเอาก้อนออก ( Excision)
ซึ่งมีแนวทางการตรวจชิ้นเนื้อดังนี้
- กลุ่มเต้านมปกติ ไม่พบก้อน และกลุ่มพบเนื้อเต้านมหนาขึ้น หรือมีลักษณตะปุ่มตะป่ำ แนวทางการจัดการขึ้นอยู่กับผลการตรวจด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ ได้แก่ BIRADs 1-3 นัดตรวจติดตามซ้ำอีก 6 เดือน แต่หากผลออกมาเป็น BIRADs4-5 ควรทำการตรวจชิ้นเนื้อด้วยวิธีตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดใหญ่ ( Core needle biopsy ) หรือ ผ่าตัดเอาก้อนออก ( Excision)
- กลุ่มตรวจพบพบก้อน มีรูปร่างชัดเจน ไม่แข็ง หากผลแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์พบว่าเป็นถุงน้ำ ถ้าขนาดใหญ่มากๆมักจะไม่ยุบเอง ควรใช้เข็มเล็กเจาะดูดน้ำและนำเซลล์ไปตรวจ ( fine needle aspiration ) ดูลักษณะน้ำว่าใสหรือไม่ มีเลือดปนหรือไม่ หลังดูดน้ำออกหมดแล้วยังเหลือเป็นก้อนอยู่หรือไม่ แต่ถ้าผลออกมาเป็น BIRADs 4-5 มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม ควรทำการตรวจชิ้นเนื้อด้วยวิธีตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดใหญ่ ( Core needle biopsy ) หรือ ผ่าตัดเอาก้อนออก ( Excision)
- กลุ่มที่ตรวจพบก้อนที่ผิวไม่เรียบ แข็ง สงสัยมะเร็งเต้านม แม้ผลแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์เป็น BIRADs 1,2,3 ควรตรวจชิ้นเนื้อด้วยเข็มใหญ่ หรือ ผ่าตัดเอาก้อน ใน BIRADs 4-5 ควรทำการตรวจชิ้นเนื้อวิธีตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดใหญ่ ( Core needle biopsy )มากกว่าการผ่าตัดเอาก้อนออก
ข้อดีการเจาะชิ้นเนื้อเต้านม
การเจาะชิ้นเนื้อโดยการใช้เข็มขนาดใหญ่ แพทย์จะทำการเจาะผ่านผิวหนังเพื่อตัดชิ้นเนื้อบางส่วนออกมาตรวจทางพยาธิวิทยา โดยทั่วไปจะใช้ปลายมีดเล็กๆ ทำรอยบากที่ผิวหนังเพื่อให้เข็มเจาะทะลุผิวหนังได้ง่าย ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ผู้ป่วยจะได้รับการฉีดยาชาเฉพาะที่โดยแพทย์
- ผู้ป่วยเจ็บน้อยลง
- ระยะเวลาในการทำสั้น หากทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องนอน รพ.
- ลดความชอกช้ำ ต่อเนื้อเยื่อปก
- การฟื้นตัวเป็นไปได้รวดเร็ว
- ขนาดของรอยแผลเท่ากับรูเข็มเล็กกว่าการผ่าตัดทั่วไป
- เพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนการรักษา
การตรวจชิ้นเนื้อเต้านมรอผลตรวจกี่วัน?
ระยะเวลารอผลตรวจชิ้นเนื้อเต้านมจะใช้เวลาประมาณ 7วัน
ขั้นตอนการเจาะชิ้นเนื้อเต้านม
- ผู้เข้ารับบริการเปลี่ยนชุดเป็นชุดตรวจเต้านม เป็นเสื้อคลุมกระดุมผ่าหน้า
- ผู้เข้ารับบริการนอนหงายบนเตียง ถอดเสื้อด้านที่ต้องการเจาะเข็มเก็บชิ้นเนื้อ ยกแขนขึ้นแนบกับศีรษะ เจ้าหน้าที่จะเอาหมอนใบเล็กมาหนุนที่แขนกับไหล่ให้
- พยาบาลทำความสะอาดเต้านมด้วยแอลกอฮอล์
- แพทย์ฉีดยาชาในตำแหน่งที่จะเจาะเข็ม แล้วใช้ใบมีดเจาะเปิดผิวหนังเพื่อสอดเข็มเจาะชิ้นเนื้อเข้าไป
- แพทย์ใช้เข็มเจาะชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้อออกมาประมาณ 3-5 ครั้ง ครั้งละ 1 ชิ้น แล้วนำชิ้นเนื้อใส่ในกระปุกสำหรับตรวจแผนกพยาธิวิทยา
- พยาบาลจะกดแผลเพื่อไล่เลือดที่ตกค้างอยู่ในแผล แล้วปิดแผลด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ จากนั้นประคบเย็นให้ผู้เข้ารับบริการ 20-30 นาที หากไม่มีอาการเลือดซึมหรืออาการข้างเคียงอื่นๆ ก็สามารถเดินทางกลับบ้านได้
การเตรียมตัวก่อนเจาะชิ้นเนื้อเต้านม
ก่อนเข้ารับการเจาะชิ้นเนื้อเต้านม ผู้เข้ารับบริการจะต้องเตรียมตัวล่วงหน้าเล็กน้อย ตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- หากเคยตรวจแมมโมแกรมหรือผลอัลตราซาวด์เต้านมจากสถานพยาบาลอื่นๆ ให้นำมาให้แพทย์ตรวจดูก่อนนัดหมายตรวจชิ้นเนื้อเต้านม
- แจ้งประวัติสุขภาพ ประวัติโรคประจำตัว ประวัติแพ้ยา รายการยาประจำตัว วิตามินเสริม อาหารเสริม สมุนไพรเสริมสุขภาพทุกชนิดกับแพทย์ล่วงหน้า
- งดยาตามที่แพทย์แนะนำ เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาละลายลิ่มเลือดประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการตรวจ ในผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิดอาจไม่จำเป็นต้องหยุดยา
- แต่งตัวในชุดที่ใส่สบาย สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย
- ไม่ต้องงดน้ำและงดอาหารก่อนตรวจ
การดูแลหลังได้รับการเจาะชิ้นเนื้อ
- หลังการเจาะชิ้นเนื้อ กดแผลห้ามเลือด ประมาณ 15 นาที เมื่อเลือดหยุดปิดแผลด้วยผ้าก๊อสหรือแผ่นกันน้ำ ปิดแผลไว้ 3 วัน
- ถ้าต้องการเปลี่ยนแผลก่อนครบ 3 วัน (กรณีแผลสกปรกหรือเลื่อนหลุด) ให้ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดแผลแล้วทาโพวิดีนไว้ ปิดแผลเหมือนเดิม
- หลังการเจาะวันแรก ควรประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม และลดรอยเขียวช้ำ
- หลังเจาะอาจมีเลือดออกได้ หากมีเลือดออกให้กดไว้ และใช้น้ำแข็งใส่ถุงพลาสติก หรือห่อผ้า หรือ Cold Pack กดไว้ประมาณ 15-30 นาที
- เมื่อกลับบ้านถ้ามีเลือดออกมากหรือบริเวณเต้านมปวด บวมโตผิดปกติ เป็นไข้ หลังเจาะชิ้นเนื้อให้พบแพทย์ทันทีที่โรงพยาบาล
- ระวังแผล ไม่ให้ถูกน้ำ ประมาณ 3 วัน จะปิดแผ่นกันน้ำให้สามารถอาบน้ำได้ปกติหากมีอาการคันแดงบริเวณที่ปิดแผ่นกันน้ำ สามารถแกะออกได้ และปิดพลาสเตอร์แทน
- อาจมีอาการเจ็บ หรือรอยเขียวช้ำเล็กน้อยได้ในตำแหน่งที่เจาะ สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ คือยาพาราเซตามอล ห้ามใช้แอสไพรินใน 5 วัน
- งดยกของหนัก หรือกิจกรรมที่ออกแรงมาก เช่น เล่นเทนนิส เต้นแอโรบิก ประมาณ 5-7 วัน สามารถขับรถ ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ
- กรณีเจาะชิ้นเนื้อที่เต้านม ให้สวมเสื้อชั้นในแบบพยุงเต้านมในช่วง 48 ชั่วโมงแรก หรือสวมเสื้อชั้นในแบบนักกีฬา(sport Bra) ที่เป็นตะขอหน้าใช้ได้ดีที่สุด
- ห้ามนวดหรือคลึงเต้านมประมาณ 3 วัน
- ผลการตรวจชิ้นเนื้อจะทราบหลังจากเจาะประมาณ 5-7 วัน
- มาพบแพทย์ตามนัด เพื่อรับฟังผลการตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ติดต่อศูนย์ศัลยกรรมผ่านกล้อง
รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
02-441-7899 ต่อ 1111 , 3124 หรือ1792
ติดต่อผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาได้เลยค่ะ