ทำไมต้องตรวจภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี?
ไวรัสตับอักเสบบี (HBV) เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของ ตับแข็ง และ มะเร็งตับ โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า
- ผู้ติดเชื้อเรื้อรังมีโอกาส สูงถึง 20–30% ที่จะเกิดโรคตับเรื้อรัง
- ผู้ป่วยมะเร็งตับกว่า 50% มีประวัติเคยติดเชื้อ HBV
📌 ปัญหาคือ หลายคนติดเชื้อแต่ ไม่มีอาการ ทำให้ไม่รู้ตัว และแพร่เชื้อต่อได้โดยไม่รู้ ดังนั้นการตรวจภูมิคุ้มกันและการตรวจหาเชื้อจึงสำคัญมาก
ไวรัสตับอักเสบบีอันตรายอย่างไร?
- ทำให้เกิด ตับอักเสบเฉียบพลัน → ไข้ อ่อนเพลีย ปวดชายโครงขวา
- พัฒนาเป็น ตับอักเสบเรื้อรัง → เสี่ยงตับแข็ง
- เพิ่มความเสี่ยง มะเร็งตับ หลายเท่า
- แพร่เชื้อได้ทางเลือด เพศสัมพันธ์ และจากแม่สู่ลูก
อ่านเพิ่มเติม
-ไวรัสตับอักเสบบี ติดต่ออย่างไร อันตรายแค่ไหน
-ตับอักเสบเกิดจากอะไร สาเหตุ อาการและการป้องกัน
ตรวจภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี ตรวจอะไรบ้าง?
ชนิดการตรวจ | ความหมาย | แปลผล |
HbsAg | แอนติเจนพื้นผิวไวรัส | พบ = กำลังติดเชื้อ / พาหะ |
anti-HBs (HBsAb) | แอนติบอดีภูมิคุ้มกัน | ≥ 10 mIU/mL = มีภูมิคุ้มกัน |
anti-HBc | แอนติบอดีต่อแกนไวรัส | พบ = เคยติดเชื้อในอดีต |
Tip: ควรตรวจ HBsAg และ anti-HBs พร้อมกัน เพื่อรู้ว่ามีเชื้อและมีภูมิคุ้มกันหรือไม่
วิธีแปลผล HBsAg / anti-HBs แบบเข้าใจง่าย
HBsAg | anti-HBs | ความหมาย | คำแนะนำ |
+ | – | ติดเชื้อ / พาหะ | พบแพทย์เพื่อวางแผนรักษา |
– | + | มีภูมิคุ้มกันแล้ว | ตรวจซ้ำทุก 5–10 ปี |
– | – | ไม่มีเชื้อ ไม่มีภูมิ | ควรฉีดวัคซีนทันที |
ใครควรตรวจบ้าง?
- บุคคลทั่วไปที่ไม่เคยตรวจมาก่อน
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวติด HBV
- บุคลากรทางการแพทย์
- ผู้มีคู่นอนหลายคนหรือไม่ได้ป้องกัน
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (ไต เบาหวาน)
- หญิงตั้งครรภ์
- ผู้ที่ต้องรับเลือดบ่อย
ขั้นตอนการตรวจและความถี่
- ก่อนตรวจ → ไม่จำเป็นต้องงดอาหาร
- ระหว่างตรวจ → เจาะเลือด 3–5 mL
- หลังตรวจ → รอผล 1–3 วัน
ควรตรวจซ้ำทุก 5–10 ปี หรือเร็วกว่านั้นถ้าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
ป้องกันไวรัสตับอักเสบบีอย่างไร? (Before–During–After)
- Before: ตรวจภูมิคุ้มกันและหาเชื้อ
- During: ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม (0–1–6 เดือน)
- After: ตรวจซ้ำหลังฉีด 1–2 เดือน เพื่อดูว่ามีภูมิหรือไม่
ทำไมต้องตรวจภูมิคุ้มกันควบคู่กับการตรวจหาเชื้อ?
การตรวจหาเชื้อ (HBsAg) เพียงอย่างเดียวอาจพลาดกรณี “ไม่มีเชื้อ แต่ไม่มีภูมิ” → เสี่ยงติดเชื้อในอนาคต
**ดังนั้นควรตรวจ HBsAg + anti-HBs ทุกครั้ง**
กรณีศึกษา
ผู้ชายอายุ 40 ปี ตรวจสุขภาพพบว่า HBsAg เป็นลบ แต่ anti-HBs ก็เป็นลบ → หมายความว่าไม่มีเชื้อและไม่มีภูมิ → หลังฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม ตรวจซ้ำพบว่าภูมิขึ้นมากกว่า 100 mIU/mL → ป้องกันโรคได้ในระยะยาว
รู้หรือไม่? คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อ HBV เสี่ยงติดเชื้อได้แม้สัมผัสเลือดเพียงหยดเดียว ✅ ตรวจวันนี้ ป้องกันตับแข็งและมะเร็งตับได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
FAQ : คำถามที่พบบ่อย
Q: ถ้ามีภูมิแล้วต้องฉีดวัคซีนอีกไหม?
A: ไม่จำเป็นจนกว่าภูมิจะต่ำกว่า 10 mIU/mL
Q: ภูมิอยู่ได้นานแค่ไหน?
A: โดยทั่วไป 10–20 ปี แต่ขึ้นกับร่างกายแต่ละคน
Q: หญิงตั้งครรภ์ตรวจได้ไหม?
A: ควรตรวจทุกคน เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อสู่ลูก
Q: ถ้าติดเชื้อแล้วรักษาหายไหม?
A: ไม่มียารักษาให้หายขาด แต่สามารถควบคุมโรคได้
Q: ตรวจที่ไหนได้บ้าง?
A: โรงพยาบาล, คลินิกเวชกรรม, ศูนย์ตรวจสุขภาพ และโรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
ตรวจภูมิคุ้มกันและหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ป้องกันตับแข็งและมะเร็งตับได้ตั้งแต่วันนี้ คลินิกทางเดินอาหารและตับ ศูนย์อายุรกรรม 24 ชม. โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
ดูข้อมูลคลินิกทางเดินอาหารและตับ
คลินิกระบบทางเดินอาหารและตับ
ศูนย์อายุรกรรม 24 ชั่วโมง
โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
โทร: 02-441-7899 หรือ1792
แผนที่: ใกล้พุทธมณฑล – หนองแขม – อ้อมน้อย
นัดหมายออนไลน์: Line