บทความโดย
นพ.สุเมธ ตติรณสวัสดิ์
แพทย์เฉพาะทางอายุรศาสตร์โรคเลือด
เกล็ดเลือดคืออะไร?
เกล็ดเลือด (Platelets หรือ Thrombocytes) คือเซลล์เล็ก ๆ ชนิดหนึ่งในเลือดที่มีหน้าที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว หากร่างกายมีบาดแผลหรือเลือดออก เกล็ดเลือดจะรวมตัวกันเพื่อหยุดเลือดไหลและป้องกันการเสียเลือดมากเกินไป
ค่าปกติของเกล็ดเลือดอยู่ระหว่าง 150,000–450,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตรของเลือด หากต่ำกว่านี้ถือว่าเป็นภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำคืออะไร?
เมื่อจำนวนเกล็ดเลือดลดลงต่ำกว่าค่าปกติ ร่างกายจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกง่าย หยุดยาก หรือมีเลือดออกภายในโดยไม่รู้ตัว ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
สาเหตุของเกล็ดเลือดต่ำ
เกล็ดเลือดต่ำเกิดจากอะไร?
- ไขกระดูกสร้างเกล็ดเลือดได้น้อย เช่น จากโรคไขกระดูกฝ่อ มะเร็งเม็ดเลือดขาว
- เกล็ดเลือดถูกทำลายเร็วผิดปกติ เช่น โรค ITP (ภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือด)
- การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น ไวรัสเด็งกี่ (ไข้เลือดออก)
- ผลข้างเคียงจากยา เช่น ยาเคมีบำบัด ยาปฏิชีวนะบางชนิด
- โรคตับ ม้ามโต หรือโรคเรื้อรังบางอย่าง
เกล็ดเลือดต่ำระดับไหนอันตราย?
- ต่ำกว่า 100,000 มักไม่มีอาการชัดเจน แต่ต้องเฝ้าระวัง
- ต่ำกว่า 50,000 เสี่ยงเลือดออกง่าย เช่น เลือดออกตามไรฟัน จุดแดงใต้ผิวหนัง
- ต่ำกว่า 20,000 มีความเสี่ยงสูงต่อการเลือดออกภายใน เช่น สมองหรือทางเดินอาหาร
- ต่ำกว่า 10,000 เป็นภาวะฉุกเฉิน ต้องเข้ารับการรักษาทันที
อาการของเกล็ดเลือดต่ำ
- จุดแดงใต้ผิวหนัง (จ้ำเลือด) หรือช้ำง่าย
- เลือดออกตามไรฟัน หรือเลือดกำเดาออกง่าย
- เลือดออกนานกว่าปกติเมื่อมีบาดแผล
- มีเลือดออกในปัสสาวะหรืออุจจาระ (กรณีรุนแรง)
- ประจำเดือนมามากผิดปกติในเพศหญิง
- อ่อนเพลีย หรือมีภาวะซีดร่วมด้วยในบางราย
เกล็ดเลือดต่ำต่างจากโลหิตจางอย่างไร?
- โลหิตจาง คือภาวะที่ร่างกายมีเม็ดเลือดแดงน้อยหรือฮีโมโกลบินต่ำ ทำให้เหนื่อยง่าย หน้าซีด
- เกล็ดเลือดต่ำ คือภาวะที่ร่างกายขาดเกล็ดเลือด ทำให้เลือดออกง่าย หยุดยาก
ทั้งสองภาวะนี้อาจเกิดร่วมกันได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคเลือด โรคเรื้อรัง หรือได้รับเคมีบำบัด
อ่านเพิ่มเติม
โรคโลหิตจางคืออะไร รู้ทันอาการ สาเหตุ และแนวทางการรักษา
เกล็ดเลือดต่ำต้องกินอะไร? ห้ามกินอะไร?
อาหารที่ควรรับประทาน
- ผักผลไม้ที่มีวิตามิน C สูง เช่น ฝรั่ง ส้ม มะขามป้อม ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและซ่อมแซมเซลล์ได้ดี
- อาหารที่มีโฟเลตสูง เช่น ตับ ผักโขม ถั่วแดง
- อาหารที่มีวิตามิน B12 และ K เช่น ไข่ นม เนื้อแดง
- น้ำสะอาดมากเพียงพอ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
อาหาร/ยา/สมุนไพรที่ควรหลีกเลี่ยง
- แอสไพริน ยาต้านเกล็ดเลือดโดยไม่จำเป็น
- แปะก๊วย น้ำมันปลา (ในบางคนทำให้เลือดแข็งตัวยาก)
- แอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลรบกวนการทำงานของตับและไขกระดูก
เกล็ดเลือดต่ำต้องทำอย่างไร? ต้องพบแพทย์ไหม?
หากพบว่าเกล็ดเลือดต่ำจากผลตรวจเลือด หรือมีอาการที่กล่าวมา ควรพบแพทย์เพื่อประเมินสาเหตุ และวางแผนการดูแลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีโรคประจำตัวหรือใช้ยาเป็นประจำ
เกล็ดเลือดต่ำหายได้ไหม?
หากเกิดจากการติดเชื้อ ภูมิคุ้มกันผิดปกติหรือยาบางชนิด เมื่อรักษาหรือหยุดยาแล้ว เกล็ดเลือดมักจะกลับสู่ภาวะปกติได้ แต่หากเกิดจากโรคทางพันธุกรรมหรือโรคเรื้อรังบางชนิด โรคไขกระดูกหรือโรคมะเร็ง ต้องอาศัยการติดตามและดูแลระยะยาว
FAQ คำถามที่พบบ่อย
Q: เกล็ดเลือดต่ำ 50,000 อันตรายไหม?
A: อยู่ในช่วงที่ต้องระวังเลือดออกง่าย ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเลือดออก
Q: เกล็ดเลือดต่ำต้องกินอะไรเพิ่ม?
A: แนะนำอาหารที่มีวิตามิน C, โฟเลต, B12 และธาตุเหล็ก เช่น ฝรั่ง ผักโขม ตับ เนื้อแดง
Q: เกล็ดเลือดต่ำกี่วันหาย?
A: ขึ้นอยู่กับสาเหตุ หากเกิดจากการติดเชื้อหรือยา มักดีขึ้นใน 1–2 สัปดาห์ แต่หากเป็นโรคเรื้อรังอาจต้องใช้เวลานานและติดตามต่อเนื่อง
Q: ทำไมเกล็ดเลือดต่ำทำให้เลือดออกง่าย?
A: เพราะเกล็ดเลือดมีหน้าที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว หากมีน้อยเกินไป เลือดจะหยุดไหลได้ยาก
หากคุณสงสัยว่าตัวเองมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หรือมีอาการเลือดออกผิดปกติ จุดแดงใต้ผิวหนัง หรือซีดเรื้อรัง สามารถเข้ารับการตรวจและปรึกษาได้ที่ ศูนย์อายุรกรรม 24 ชม. โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
นัดหมาย นพ.สุเมธ ตติรณสวัสดิ์ ได้ที่:
ศูนย์อายุรกรรม Premium 24 ชั่วโมง
โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
โทร: 02-441-7899 หรือ1792
แผนที่: ใกล้พุทธมณฑล – หนองแขม – อ้อมน้อย
นัดหมายออนไลน์: Line