7 วิธีไล่ลมในท้อง เหนื่อย แน่น จุกเสียด แก้ได้ไม่ต้องพึ่งยา

รู้สึกแน่นท้อง จุกเสียด เหนื่อยง่ายเหมือนหายใจไม่สุด? อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่อาจเป็น “ลมในท้อง” ที่กวนใจในชีวิตประจำวัน ปัญหานี้เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และมักเกิดจากพฤติกรรมการกินหรือระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ

บทความนี้จะพาคุณมารู้จัก 7 วิธีไล่ลมในท้องแบบไม่ต้องพึ่งยา ทำได้เองที่บ้าน เข้าใจง่าย และช่วยให้อาการทุเลาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

สาเหตุที่ทำให้มีลมในท้อง

ก่อนรู้วิธีไล่ลมในท้อง มาทำความเข้าใจสาเหตุหลักที่ทำให้เรารู้สึกแน่น จุกเสียด:

  • กลืนอากาศระหว่างกินอาหารหรือพูด
  • เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือดื่มน้ำอัดลม
  • อาหารไม่ย่อย
  • ระบบขับถ่ายทำงานช้า
  • ลำไส้เคลื่อนไหวผิดปกติ
  • ภาวะลำไส้แปรปรวน (IBS)

7 วิธีไล่ลมในท้อง แบบธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งยา

  1. นวดหน้าท้องเบา ๆ ตามเข็มนาฬิกา

การนวดเบา ๆ ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ และช่วยไล่ลมออกจากทางเดินอาหารได้ดี

  1. ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำขิง

น้ำอุ่นช่วยให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้น ส่วน “น้ำขิง” มีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ และลดแก๊สในกระเพาะได้

  1. เคลื่อนไหวร่างกายเบา ๆ เช่น เดินหลังมื้ออาหาร

หลังรับประทานอาหาร ควรเดินเบา ๆ 10–15 นาที เพื่อช่วยให้ลำไส้ขับลมได้ดีขึ้น

  1. ฝึกการหายใจลึก (Deep Breathing)

หายใจเข้าท้อง พุ่ง หายใจออกยุบ จะช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อหน้าท้องและกระตุ้นการขับลมออก

  1. เลี่ยงอาหารที่ก่อแก๊ส

เช่น ถั่วบางชนิด ผักตระกูลกะหล่ำ นมวัว อาหารมันจัด หรือหวานจัด

  1. ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น

ช่วยเพิ่มการผลิตน้ำย่อยในกระเพาะ กระตุ้นการขับลมและลดอาการแน่นได้

  1. ท่าบริหาร “ชันเข่าหมุนท้อง”

นอนหงาย ชันเข่า ขยับสะโพกหมุนเบา ๆ จะช่วยขับลมจากลำไส้ได้ตามธรรมชาติ

ควรไปพบแพทย์เมื่อใด?

แม้อาการลมในท้องจะไม่ร้ายแรง แต่หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์:

  • แน่นท้องเรื้อรังเกิน 1 สัปดาห์
  • ปวดท้องร่วมกับอาเจียนหรือถ่ายผิดปกติ
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • จุกแน่นบริเวณลิ้นปี่ร่วมกับเหนื่อยหอบ

บทความที่เกี่ยวข้อง
ท้องอืด แน่นท้อง ท้องบวม เกิดจากอะไร

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ดื่มโซดาหรือโค้ก ช่วยไล่ลมในท้องได้ไหม?
A:
แม้จะรู้สึก “เรอ” ได้ในทันที แต่โซดาเป็นน้ำอัดลมที่เพิ่มแก๊สในท้อง ไม่แนะนำในระยะยาว

Q: กินยาธาตุน้ำขาวช่วยได้ไหม?
A:
ช่วยบรรเทาได้ แต่ไม่ควรใช้บ่อย และไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

Q: ลมในท้องเกิดจากความเครียดได้ไหม?
A:
ได้ ความเครียดส่งผลต่อการบีบตัวของลำไส้และระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดแก๊สสะสมมากขึ้น

Q: อาการแน่นท้องกับโรคกระเพาะต่างกันอย่างไร?
A:
ลมในท้องมักจุก แน่น เรอบ่อย แต่ไม่ปวดแสบ ส่วนโรคกระเพาะมักมีอาการปวดแสบลิ้นปี่ร่วมด้วย

Q: ออกกำลังกายหนักช่วยไล่ลมได้ไหม?
A:
ไม่แนะนำให้ออกกำลังกายหนักขณะแน่นท้อง เพราะอาจทำให้หายใจไม่สะดวก ควรเน้นการเคลื่อนไหวเบา ๆ

สรุป ลมในท้องอาจดูไม่ร้ายแรง แต่หากปล่อยไว้เรื้อรัง อาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้ วิธีง่าย ๆ อย่างการนวด ดื่มน้ำอุ่น เลี่ยงอาหารก่อแก๊ส และเดินเบา ๆ หลังมื้ออาหาร ช่วยให้คุณสบายท้องขึ้นได้แบบไม่ต้องพึ่งยา

หากคุณมีอาการแน่น จุกเสียด หายใจไม่สะดวกจากลมในท้องเรื้อรัง หรือสงสัยว่ามีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร พบแพทย์เฉพาะทางได้ที่ คลินิกทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย เราพร้อมให้คำปรึกษา ตรวจวินิจฉัย และดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินอาหาร

ดูข้อมูลคลินิกและนัดหมายแพทย์เฉพาะทางได้ที่นี่ 

 

คลินิกทางเดินอาหารและตับ รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
โทร: 02-441-7899  หรือ1792
แผนที่: ใกล้พุทธมณฑล – หนองแขม – อ้อมน้อย
นัดหมายออนไลน์: Line