นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับคู่ค้า

ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับคู่ค้า

  1. บททั่วไป
    เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2563 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นเนล (“โรงพยาบาล”) จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ของโรงพยาบาล (“ประกาศฯ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่โรงพยาบาล ปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เช่น วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม อาทิ การบันทึก การจัดเก็บ การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจำกัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบหรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ทาง โรงพยาบาล ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
  2. กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่โรงพยาบาล ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
    ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่โรงพยาบาล ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย

    1. ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่อาจเป็นคู่ค้ากับโรงพยาบาล ทั้งในกรณีที่บุคคลดังกล่าวได้แสดงเจตนาจะเข้าทำสัญญา และ/หรือจะลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของโรงพยาบาล และในกรณีที่โรงพยาบาล เป็นฝ่ายเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยการตัดสินใจของโรงพยาบาลเอง อาทิ ผู้ให้บริการ ผู้ที่จะเข้าทำธุรกิจแฟรนไชส์ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการธุรกิจ คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
    2. คู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่โรงพยาบาล หรือได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับทางโรงพยาบาล หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับโรงพยาบาล อาทิ ผู้ให้บริการ ผู้ที่จะเข้าทำธุรกิจแฟรนไชส์ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการธุรกิจ คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
    3. ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า เช่น กรรมการ ตัวแทน หรือบุคลากรของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
  3. วิธีที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    1. โรงพยาบาล เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
      (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาล โดยตรง
      ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่โรงพยาบาล โดยตรง เช่น เมื่อท่านกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับโรงพยาบาล เมื่อท่านส่งมอบเอกสารและสำเนาเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้กับโรงพยาบาล เมื่อท่านสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนต่อโรงพยาบาล ทางโทรศัพท์ อีเมล โทรสาร ทางไปรษณีย์ หรือแอปพลิเคชัน เป็นต้น
      ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ
      บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้
      (ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
      โรงพยาบาล อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านพ่อค้าคนกลาง หรือในบางกรณีโรงพยาบาล อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือ แหล่งข้อมูลทางการค้า เป็นต้น
    2. ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โรงพยาบาล จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
    3. ในกรณีที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ โรงพยาบาลจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่โรงพยาบาล ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังโรงพยาบาลตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ โรงพยาบาล ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
  4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
    ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาล โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่

    1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย และลายมือชื่อ เป็นต้น
    2. ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น
    3. ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาทะเบียนการค้า เป็นต้น
    4. ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย เช่น รหัสคู่ค้า รายละเอียดของสินค้าที่ เลขที่ใบรับสินค้าชั่วคราว รายละเอียดการส่งสินค้า เลขที่บัญชี และจำนวนเงิน เป็นต้น
    5. ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับโรงพยาบาล หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาหนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ใบเสนอราคา ใบส่งสินค้า ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน เช็คและต้นขั้วเช็ค ใบสำคัญจ่าย ใบกำกับภาษี และสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือธุรกิจต่าง ๆ เป็นต้น
    6. ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
    7. ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
  5. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    1. โรงพยาบาล ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”) ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โรงพยาบาล จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
    2. เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โรงพยาบาล จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 5.1 ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญา เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่โรงพยาบาล อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้โรงพยาบาล ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว โรงพยาบาล อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขายสินค้าหรือการให้/การรับบริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
    3. ในกรณีที่โรงพยาบาล จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น โรงพยาบาล จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)
  6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    1. โรงพยาบาล อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
      (ก) โรงพยาบาลในกลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
      (ข) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่โรงพยาบาล ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น บริการด้าน บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการวิเคราะห์ข้อมูล การทำการตลาด หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของโรงพยาบาล อาทิ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต หน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
      (ค) ที่ปรึกษาของโรงพยาบาล อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของโรงพยาบาล เป็นต้น
      (ง) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี เป็นต้น
      (จ) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ อาทิ การเปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ของโรงพยาบาล ให้แก่ประชาชนทั่วไป
    2. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โรงพยาบาล จะขอความยินยอมจากท่านก่อน
    3. ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น โรงพยาบาลจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่โรงพยาบาลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ โรงพยาบาลจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณีโรงพยาบาลอาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
  7. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
    โรงพยาบาล จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ นอกจากนี้ โรงพยาบาล จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของโรงพยาบาล และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญทั้งนี้ โรงพยาบาล จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับโรงพยาบาล สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี โรงพยาบาล อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของโรงพยาบาลหลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น โรงพยาบาล จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของโรงพยาบาล และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่โรงพยาบาล (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่โรงพยาบาล สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนดทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังโรงพยาบาล ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 8 ของประกาศฯ ฉบับนี้
  8. สิทธิต่าง ๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
    ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังโรงพยาบาล ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้

    1. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
      ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้โรงพยาบาล ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
    2. สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
      ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
    3. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
      ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
    4. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
      ท่านอาจขอให้โรงพยาบาล ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
    5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
      ท่านมีสิทธิขอให้โรงพยาบาล ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
    6. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
      ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
    7. สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม
      ในกรณีที่โรงพยาบาล อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับโรงพยาบาล ได้
    8. สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
      หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของโรงพยาบาล เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อโรงพยาบาล โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าโรงพยาบาล ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

    ทั้งนี้ โรงพยาบาล ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  9. วิธีการติดต่อโรงพยาบาล
    ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อโรงพยาบาล ผ่านช่องทาง ดังนี้

    • โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย
      74/5 หมู่ 4 ถ.เพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 74130
      โทร. 02 441 7899
      แฟกซ์ 02 431 0940, 02 431 0943
      อีเมล์: webmaster@vichaivej.com
    • โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม
      456-456/8 ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ 10160
      โทร. 02 441 6999
      แฟกซ์ 02 421 1784
      อีเมล์: nongkhaem@vichaivej.com
    • โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สมุทรสาคร
      93/256 หมู่ 7 ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
      โทร. 034 410 700-6 (อัตโนมัติ 7 คู่สาย)
      แฟกซ์ 034 410 710
      อีเมล์: samutsakhon@vichaivej.com
    • โรงพยาบาลวิชัยเวช แยกไฟฉาย
      240/2-4 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
      โทร. 02 412 0055-60
      แฟกซ์ 02 412 7581-2
      อีเมล์: yaekfaichai@vichaivej.com

    นอกจากนี้ ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยติดต่ออีเมล dpo@vichaivej.com

  10. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้
    โรงพยาบาล อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยโรงพยาบาล จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ โรงพยาบาล ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

อนึ่ง หากมีประกาศเรื่อง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้บังคับใช้ ให้ยกเลิกและให้ใช้ประกาศฉบับนี้แทน

ทั้งนี้ บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 11 มกราคม 2565