นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับคู่ค้า
ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับคู่ค้า
- บททั่วไป
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2563 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นเนล (“โรงพยาบาล”) จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ของโรงพยาบาล (“ประกาศฯ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่โรงพยาบาล ปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เช่น วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม อาทิ การบันทึก การจัดเก็บ การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจำกัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบหรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ทาง โรงพยาบาล ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ - กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่โรงพยาบาล ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่โรงพยาบาล ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย- ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่อาจเป็นคู่ค้ากับโรงพยาบาล ทั้งในกรณีที่บุคคลดังกล่าวได้แสดงเจตนาจะเข้าทำสัญญา และ/หรือจะลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของโรงพยาบาล และในกรณีที่โรงพยาบาล เป็นฝ่ายเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยการตัดสินใจของโรงพยาบาลเอง อาทิ ผู้ให้บริการ ผู้ที่จะเข้าทำธุรกิจแฟรนไชส์ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการธุรกิจ คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- คู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่โรงพยาบาล หรือได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับทางโรงพยาบาล หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับโรงพยาบาล อาทิ ผู้ให้บริการ ผู้ที่จะเข้าทำธุรกิจแฟรนไชส์ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการธุรกิจ คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า เช่น กรรมการ ตัวแทน หรือบุคลากรของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
- วิธีที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- โรงพยาบาล เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาล โดยตรง
ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่โรงพยาบาล โดยตรง เช่น เมื่อท่านกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับโรงพยาบาล เมื่อท่านส่งมอบเอกสารและสำเนาเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้กับโรงพยาบาล เมื่อท่านสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนต่อโรงพยาบาล ทางโทรศัพท์ อีเมล โทรสาร ทางไปรษณีย์ หรือแอปพลิเคชัน เป็นต้น
ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้
(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
โรงพยาบาล อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านพ่อค้าคนกลาง หรือในบางกรณีโรงพยาบาล อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือ แหล่งข้อมูลทางการค้า เป็นต้น - ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โรงพยาบาล จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
- ในกรณีที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ โรงพยาบาลจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่โรงพยาบาล ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังโรงพยาบาลตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ โรงพยาบาล ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- โรงพยาบาล เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาล โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่- ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย และลายมือชื่อ เป็นต้น
- ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาทะเบียนการค้า เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย เช่น รหัสคู่ค้า รายละเอียดของสินค้าที่ เลขที่ใบรับสินค้าชั่วคราว รายละเอียดการส่งสินค้า เลขที่บัญชี และจำนวนเงิน เป็นต้น
- ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับโรงพยาบาล หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาหนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ใบเสนอราคา ใบส่งสินค้า ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน เช็คและต้นขั้วเช็ค ใบสำคัญจ่าย ใบกำกับภาษี และสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือธุรกิจต่าง ๆ เป็นต้น
- ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
- วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- โรงพยาบาล ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”) ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โรงพยาบาล จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
- เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โรงพยาบาล จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 5.1 ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญา เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่โรงพยาบาล อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้โรงพยาบาล ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว โรงพยาบาล อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขายสินค้าหรือการให้/การรับบริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
- ในกรณีที่โรงพยาบาล จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น โรงพยาบาล จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- โรงพยาบาล อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
(ก) โรงพยาบาลในกลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(ข) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่โรงพยาบาล ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น บริการด้าน บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการวิเคราะห์ข้อมูล การทำการตลาด หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของโรงพยาบาล อาทิ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต หน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
(ค) ที่ปรึกษาของโรงพยาบาล อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของโรงพยาบาล เป็นต้น
(ง) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี เป็นต้น
(จ) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ อาทิ การเปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ของโรงพยาบาล ให้แก่ประชาชนทั่วไป - การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โรงพยาบาล จะขอความยินยอมจากท่านก่อน
- ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น โรงพยาบาลจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่โรงพยาบาลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ โรงพยาบาลจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณีโรงพยาบาลอาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
- โรงพยาบาล อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
- ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาล จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ นอกจากนี้ โรงพยาบาล จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของโรงพยาบาล และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญทั้งนี้ โรงพยาบาล จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับโรงพยาบาล สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี โรงพยาบาล อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของโรงพยาบาลหลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น โรงพยาบาล จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของโรงพยาบาล และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่โรงพยาบาล (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่โรงพยาบาล สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนดทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังโรงพยาบาล ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 8 ของประกาศฯ ฉบับนี้ - สิทธิต่าง ๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังโรงพยาบาล ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้โรงพยาบาล ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด - สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด - สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด - สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านอาจขอให้โรงพยาบาล ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด - สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้โรงพยาบาล ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด - สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด - สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่โรงพยาบาล อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับโรงพยาบาล ได้ - สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของโรงพยาบาล เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อโรงพยาบาล โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าโรงพยาบาล ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ทั้งนี้ โรงพยาบาล ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
- วิธีการติดต่อโรงพยาบาล
ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อโรงพยาบาล ผ่านช่องทาง ดังนี้- โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย
74/5 หมู่ 4 ถ.เพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 74130
โทร. 02 441 7899
แฟกซ์ 02 431 0940, 02 431 0943
อีเมล์: webmaster@vichaivej.com - โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม
456-456/8 ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ 10160
โทร. 02 441 6999
แฟกซ์ 02 421 1784
อีเมล์: nongkhaem@vichaivej.com - โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สมุทรสาคร
93/256 หมู่ 7 ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
โทร. 034 410 700-6 (อัตโนมัติ 7 คู่สาย)
แฟกซ์ 034 410 710
อีเมล์: samutsakhon@vichaivej.com - โรงพยาบาลวิชัยเวช แยกไฟฉาย
240/2-4 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
โทร. 02 412 0055-60
แฟกซ์ 02 412 7581-2
อีเมล์: yaekfaichai@vichaivej.com
นอกจากนี้ ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยติดต่ออีเมล dpo@vichaivej.com
- โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย
- การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้
โรงพยาบาล อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยโรงพยาบาล จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ โรงพยาบาล ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ
อนึ่ง หากมีประกาศเรื่อง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้บังคับใช้ ให้ยกเลิกและให้ใช้ประกาศฉบับนี้แทน
ทั้งนี้ บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 11 มกราคม 2565