น้ำตาลสะสมในเลือด ไม่ควรเกินเท่าไหร่? เช็ก HbA1C ป้องกันเบาหวานก่อนสาย

บทความโดย
พญ. หริณโรจน์ กลัดเจริญ
แพทย์ประจำศูนย์อายุรกรรม อายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อ


ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นเวลานานอาจทำให้คุณเสี่ยงเป็นเบาหวานโดยไม่รู้ตัว หนึ่งในการตรวจที่แพทย์แนะนำคือการตรวจ “HbA1C” ซึ่งเป็นค่าที่บอกถึงระดับน้ำตาลสะสมย้อนหลัง 2–3 เดือน แล้วเราควรมีค่าตัวนี้เท่าไหร่ถึงจะปลอดภัย? บทความนี้มีคำตอบ พร้อมวิธีดูแลตนเองเพื่อป้องกันเบาหวานได้ทันเวลา

HbA1C คืออะไร? สำคัญอย่างไรกับผู้เสี่ยงเบาหวาน

ค่าน้ำตาลสะสมในเลือด คืออะไร?

HbA1C หรือ Hemoglobin A1C คือ การตรวจเลือดเพื่อวัดระดับน้ำตาลที่เกาะอยู่กับเม็ดเลือดแดง โดยบ่งบอกได้ว่าในช่วง 2–3 เดือนที่ผ่านมา ร่างกายของคุณมีระดับน้ำตาลสูงแค่ไหน ต่างจากการเจาะปลายนิ้วที่วัดเฉพาะช่วงเวลานั้นๆ

ทำไมการตรวจ HbA1C จึงสำคัญ?

  • ค่าที่แม่นยำกว่าการตรวจน้ำตาลแบบทั่วไป
  • ช่วยวินิจฉัยภาวะ “เสี่ยงเบาหวาน” ได้ล่วงหน้า
  • ใช้ติดตามผลการควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว

ค่าน้ำตาลสะสมในเลือดไม่ควรเกินเท่าไหร่?

ระดับ HbA1C ความหมาย แนวทางดูแล
ต่ำกว่า 5.7% ปกติ ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายต่อเนื่อง
5.7–6.4% เสี่ยงเป็นเบาหวาน ปรับพฤติกรรม และเฝ้าระวัง
มากกว่า 6.5% เป็นเบาหวาน ต้องรับการรักษาและควบคุมระดับน้ำตาล

หมายเหตุ: แพทย์อาจมีเกณฑ์ปรับเปลี่ยนตามอายุ โรคร่วม และภาวะแทรกซ้อนเฉพาะบุคคล

วิธีเตรียมตัวก่อนตรวจ HbA1C

  • ไม่จำเป็นต้องงดอาหาร (สามารถเจาะเลือดได้ทันที)
  • แจ้งแพทย์หากมีภาวะโลหิตจาง หรือโรคเลือด
  • ตรวจร่วมกับน้ำตาลปลายนิ้ว (FBS) เพื่อประเมินภาพรวมสุขภาพ

ใครบ้างควรตรวจ HbA1C เป็นประจำ?

  • ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
  • ผู้มีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน
  • ผู้มีภาวะอ้วน หรือไขมันพอกตับ
  • หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
  • ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ไม่ออกกำลังกาย ทานหวานจัด

ทำยังไงเมื่อ HbA1C สูง? ปรับพฤติกรรมทันก่อนจะสาย

  1. ปรับอาหาร ลดแป้งและน้ำตาล : หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มหวาน ขนมปังขัดขาว และอาหารทอด เลือกโปรตีนคุณภาพดี เช่น ปลา เต้าหู้ และผักใบเขียว
  2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือโยคะ
  3. ตรวจสุขภาพและติดตามค่าซ้ำทุก 3–6 เดือน : โดยเฉพาะผู้ที่มีค่า HbA1C เกิน 5.7% ควรพบแพทย์เฉพาะทางต่อมไร้ท่อ เพื่อรับคำแนะนำเฉพาะบุคคล

บริการดูแลเบาหวานครบวงจร ที่ รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย

การตรวจ HbA1C ไม่ใช่แค่การเจาะเลือด แต่คือก้าวแรกของการดูแลสุขภาพในระยะยาว ที่ศูนย์อายุรกรรม รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย คุณจะได้รับบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่:

  • พบแพทย์เฉพาะทางด้านต่อมไร้ท่อที่เข้าใจปัญหาเฉพาะบุคคล
  • ตรวจ HbA1C และเลือดอื่น ๆ แบบเจาะจง พร้อมแปลผลทันที
  • รับคำแนะนำด้านอาหาร การออกกำลังกาย และการติดตามผลเป็นระยะ
  • รักษาต่อเนื่องได้ครบ ทั้งแบบไม่ใช้ยา หรือควบคุมด้วยยาอย่างเหมาะส,
  • พร้อมดูแลคุณตั้งแต่ยังไม่เป็นเบาหวาน ไปจนถึงการควบคุมโรคให้ได้ผลดีในระยะยาว

อ่านเพิ่มเติม
เบาหวานต้องตรวจอะไรบ้างในแต่ละปี รวมรายการตรวจสำคัญที่ไม่ควรละเลย

คำแนะนำจากแพทย์: ป้องกันเบาหวาน เริ่มได้จากการรู้ค่าตัวเอง

แม้คุณจะไม่มีอาการ แต่ HbA1C ที่สูงเป็นสัญญาณเตือนว่า “ถึงเวลาเปลี่ยนพฤติกรรม” การรู้ก่อน ปรับก่อน ย่อมลดโอกาสเกิดเบาหวาน และโรคแทรกซ้อนเรื้อรังในอนาคต

อ่านเพิ่มเติม
-เบาหวานป้องกันได้ไหม รวม 10 วิธีลดความเสี่ยงง่าย ๆ ได้ผลจริง 

-7 อาการเบาหวานที่คุณอาจมองข้าม

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ตรวจ HbA1C ต่างจากตรวจน้ำตาลปลายนิ้วอย่างไร?
A: HbA1C วัดค่าระดับน้ำตาลสะสมย้อนหลัง 2–3 เดือน ส่วนปลายนิ้ววัดเฉพาะขณะนั้น บางครั้งอาจปกติแต่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง

อ่านเพิ่มเติม
FPG คืออะไร ตรวจยังไง ใช้บอกภาวะเบาหวานได้แม่นแค่ไหน https://vichaivej-omnoi.com/health-info/fpg-diabetes-test

Q: ต้องงดน้ำงดอาหารก่อนตรวจ HbA1C หรือไม่?
A: ไม่จำเป็น สามารถตรวจได้ตลอดเวลา แต่หากตรวจร่วมกับน้ำตาลปลายนิ้วควรงดน้ำ/อาหาร 8 ชม.

Q: ตรวจ HbA1C เจ็บไหม?
A: เป็นการเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำ อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะเข็มแทงเข้า แต่ปลอดภัย

Q: ค่า HbA1C สูงต้องกินยาเลยไหม?
A: ไม่เสมอไป หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง (5.7–6.4%) สามารถเริ่มด้วยการปรับพฤติกรรมก่อน หากไม่ดีขึ้นจึงพิจารณาใช้ยา

ตรวจ HbA1C กับแพทย์เฉพาะทางต่อมไร้ท่อได้แล้ววันนี้
รู้ทันเบาหวาน เริ่มต้นที่ “รู้ค่าตัวเอง” อย่าปล่อยให้น้ำตาลสะสมทำลายสุขภาพโดยไม่รู้ตัว ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางต่อมไร้ท่อ ที่ศูนย์อายุรกรรม 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย

คลินิกต่อมไร้ท่อ ศูนย์อายุรกรรม 24 ชั่วโมง
โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
โทร: 02-441-7899  หรือ1792
แผนที่: ใกล้พุทธมณฑล – หนองแขม – อ้อมน้อย
นัดหมายออนไลน์: Line