เมื่อสงสัยว่าเป็น “ไข้เลือดออก” การตรวจเลือดเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญเพื่อยืนยันการวินิจฉัยและประเมินความรุนแรงของโรค แต่การตรวจไม่ควรทำเร็วเกินไป และต้องรู้ว่าควรดู “ค่า” อะไรบ้าง
บทความนี้จะช่วยตอบคำถามยอดฮิต เช่น
-ตรวจไข้เลือดออกเมื่อไหร่ดี?
-ค่าตรวจเลือดตัวไหนบอกว่าเสี่ยงรุนแรง?
-ถ้าเลือดปกติแปลว่าไม่เป็นหรือไม่?
ตรวจเลือดหาไข้เลือดออก เจาะตอนไหนดีที่สุด?
โดยทั่วไป ไข้เลือดออกจะไม่แสดงผลชัดเจนในเลือดทันที การตรวจเร็วเกินไปอาจยังไม่พบค่าผิดปกติ ควรเจาะเลือดหลังเริ่มมีไข้ 2–3 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มตอบสนองและค่าต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยนแปลง
ระยะเวลาที่เหมาะสมในการตรวจ
- วันที่ 1–2 ของไข้: ยังตรวจไม่พบเชื้อหรือตัวบ่งชี้แน่ชัด แพทย์มักแนะนำสังเกตอาการ
- วันที่ 3–5: ค่าต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยน เช่น เกล็ดเลือดต่ำ, ฮีมาโตคริตสูงขึ้น
- วันที่ 5 เป็นต้นไป: ตรวจ NS1, IgM, IgG ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
อ่านต่อเกี่ยวกับ ระยะของโรคไข้เลือดออกแต่ละช่วงมีอะไรบ้าง
ตรวจดูค่าอะไรบ้าง ถึงรู้ว่าเป็นไข้เลือดออก?
การตรวจเลือดไข้เลือดออก มีทั้งแบบ เฉพาะเจาะจง และ เพื่อประเมินความรุนแรง
ค่าที่ใช้วินิจฉัย
- NS1 Antigen: ตรวจเชื้อไวรัสโดยตรง ตรวจได้ตั้งแต่วันแรกของไข้
- IgM / IgG Antibody: บ่งชี้การติดเชื้อไวรัสเด็งกี่ โดย IgM จะเพิ่มขึ้นในช่วง 5–7 วัน
ค่าที่บอกความรุนแรงของโรค
- เกล็ดเลือด (Platelet Count): หาก <100,000 ถือว่าเสี่ยง
- ฮีมาโตคริต (Hematocrit): ค่าสูงขึ้นบ่งชี้ว่ามีการรั่วของน้ำออกจากเส้นเลือด
- ค่าเอนไซม์ตับ (SGOT/SGPT): บางรายมีค่าผิดปกติร่วมด้วย
ตรวจเลือดแล้วไม่เจอ แปลว่าไม่เป็นหรือเปล่า?
ไม่เสมอไป เพราะการตรวจเร็วเกินไป หรือในช่วงที่ร่างกายยังไม่สร้างภูมิตอบสนอง อาจได้ผลลบปลอม (False Negative)
คำแนะนำ:
-หากไข้ไม่ลดใน 2 วัน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำ
-ถ้ามีอาการบ่งชี้ เช่น จุดเลือดออก ผื่น หรือเกล็ดเลือดลด ควรติดตามอาการใกล้ชิด
อาการแบบไหน ควรรีบตรวจเลือดไข้เลือดออก?
- มีไข้สูงเฉียบพลันไม่ทราบสาเหตุ
- ปวดเมื่อยตามตัวมาก
- เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
- มีผื่น จุดเลือดออกตามผิวหนัง
- อ่อนเพลียผิดปกติ
หากมีอาการเหล่านี้ และสงสัยไข้เลือดออก ควรรีบเข้ารับการตรวจโดยเร็ว
อ่านเพิ่มเติม เช็กอาการไข้เลือดออก
การตรวจเลือดไข้เลือดออกในเด็ก ต่างจากผู้ใหญ่หรือไม่?
ในเด็ก การแสดงอาการอาจไม่ชัดเจน โดยเฉพาะช่วงแรกของไข้
-ควรเฝ้าระวังอาการมากเป็นพิเศษ
-หากซึม ไม่กินอาหาร หรือไข้ไม่ลดหลัง 2 วัน ควรรีบพบแพทย์
บทความเกี่ยวกับ ไข้เลือดออกในเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้
สารต้องห้ามเมื่อต้องสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก
ห้ามใช้ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac เพราะเสี่ยงเลือดออกมากขึ้น
แนะนำให้อ่าน: ไข้เลือดออกห้ามกินอะไร ยาลดไข้ที่ปลอดภัยคืออะไร
การป้องกันระยะยาว
ในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง แนะนำให้พิจารณา วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่รุนแรงได้
FAQ คำถามที่พบบ่อย
Q: ตรวจไข้เลือดออกต้องงดน้ำงดอาหารไหม?
A: ไม่จำเป็น สามารถตรวจเลือดได้ตามปกติ
Q: ถ้าเกล็ดเลือดต่ำแต่ไม่มีไข้ เป็นไข้เลือดออกไหม?
A: ต้องประเมินร่วมกับอาการและค่าอื่น ๆ เช่น ฮีมาโตคริต NS1
Q: ตรวจ NS1 แล้วไม่เจอ ต้องตรวจใหม่ไหม?
A: หากอาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีไข้สูงต่อเนื่อง ควรตรวจซ้ำใน 24–48 ชม.
สรุป
การตรวจเลือดเพื่อหาไข้เลือดออกต้องทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม และต้องดูหลายค่าเพื่อประเมินอย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่ “เกล็ดเลือดต่ำ” เท่านั้น หากมีไข้ร่วมกับอาการที่น่าสงสัย อย่าชะล่าใจ ควรพบแพทย์ทันที
เข้ารับบริการตรวจไข้เลือดออกกับแพทย์เฉพาะทาง
โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย พร้อมให้บริการตรวจ วินิจฉัย และดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออกอย่างครบวงจร
โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ใกล้บ้านคุณ
โทร: 02-441-7899 หรือ 1792
📍 แผนที่: ใกล้พุทธมณฑล – หนองแขม – อ้อมน้อย
📲 นัดหมายออนไลน์ผ่าน LINE คลิกที่นี่