STROKE คืออะไร ทำไมอันตราย
STROKE หรือโรคหลอดเลือดสมอง คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดหรือมีเลือดออกในสมอง ทำให้เซลล์สมองตายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความพิการหรือเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ถือเป็นโรคที่ต้องแข่งกับเวลา ทุกนาทีคือความเสี่ยงต่อการสูญเสียสมองเพิ่มขึ้น
STROKE มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร
- STROKE แบบสมองขาดเลือด (Ischemic Stroke)
เกิดจากหลอดเลือดสมองตีบหรือตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ พบได้มากที่สุดประมาณ 80% ของผู้ป่วย STROKE มักเกี่ยวข้องกับโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน หรือผู้ที่สูบบุหรี่
- STROKE แบบหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke)
เกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดออกในสมอง พบประมาณ 15-20% ของผู้ป่วย STROKE อาการรุนแรงและอาจถึงขั้นเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในผู้ที่ควบคุมความดันไม่ได้
- TIA หรือ Mini Stroke (Transient Ischemic Attack)
เป็นอาการคล้าย STROKE แต่เกิดขึ้นชั่วคราว (ไม่เกิน 24 ชั่วโมง) แล้วกลับมาเป็นปกติ มักเป็นสัญญาณเตือนว่ามีความเสี่ยงเกิด STROKE ใหญ่ในอนาคต ถ้าไม่รีบตรวจและป้องกัน
STROKE แต่ละประเภท รุนแรงแค่ไหน
- STROKE แบบสมองขาดเลือด ถ้ารักษาทันใน 3-4.5 ชั่วโมงแรก โดยใช้ยาละลายลิ่มเลือด จะช่วยลดความเสียหายได้มาก แต่ถ้าล่าช้า โอกาสเกิดภาวะสมองตายสูง
- STROKE แบบหลอดเลือดสมองแตก รุนแรงกว่าเพราะเลือดจะกดเบียดเนื้อสมอง มีโอกาสเสียชีวิตหรือพิการถาวรสูง
- TIA แม้หายเองได้ แต่อย่าละเลย เพราะเป็นตัวบอกว่าร่างกายกำลังมีความเสี่ยงสูง อาจเกิด STROKE ที่รุนแรงตามมา
สัญญาณเตือน STROKE ที่ห้ามมองข้าม
- ยิ้มแล้วหน้าเบี้ยว มุมปากตก
- แขนขาอ่อนแรง ชา ยกไม่ขึ้น
- พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ หรือไม่เข้าใจคำพูด
- ปวดหัวรุนแรงเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ตามัวหรือมองเห็นภาพซ้อนทันที
หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบมารพ.ทันที เพราะ 3 ชั่วโมงแรกหลังเกิดอาการ ถือเป็น “นาทีทอง” ที่มีโอกาสรักษาให้สมองกลับมาได้ดีที่สุด
อ่านเพิ่มเติม
-รู้ทันสมอง! แตก ตีบ ตัน โรคหลอดเลือดสมอง STROKE เช็กสัญญาณเตือนที่ต้องรู้
-ทำไมต้อง Stroke Fast Track เปิดเบื้องหลังระบบช่วยชีวิต เมื่อสมองขาดเลือด
การตรวจวินิจฉัย STROKE
- ตรวจร่างกายโดยแพทย์เฉพาะทางระบบประสาท
- ตรวจ CT Scan หรือ MRI สมอง เพื่อดูว่าเป็นหลอดเลือดตีบหรือแตก
- ตรวจเลือด ประเมินปัจจัยเสี่ยง เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือด
อ่านเพิ่มเติม
รู้เร็ว รอดไว เจาะลึกการวินิจฉัยโรคหลอดลือดสมอง STROKE
แนวทางรักษา STROKE
ถ้าเป็น STROKE แบบสมองขาดเลือด
- ให้ยาละลายลิ่มเลือดถ้าอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม (ไม่เกิน 4.5 ชั่วโมงหลังเริ่มอาการ)
- ในบางรายอาจต้องใส่สายสวนเพื่อเอาลิ่มเลือดออก
ถ้าเป็น STROKE แบบหลอดเลือดสมองแตก
- ควบคุมความดัน เลือดออก และภาวะสมองบวม
- ในบางกรณีอาจต้องผ่าตัดเพื่อระบายเลือดหรือตัดต่อเส้นเลือดที่ผิดปกติ
อ่านเพิ่มเติม
โรคหลอดเลือดสมอง STROKE เป็นแล้วหายขาดได้ไหม
ป้องกัน STROKE อย่างไร
- ควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมัน
- เลิกบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะหากมีปัจจัยเสี่ยงหรือมีคนในครอบครัวเคยเป็น STROKE
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
Q: TIA คืออะไร ต่างจาก STROKE อย่างไร
A: TIA คือ ภาวะที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอชั่วคราว มักใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง แล้วกลับมาเป็นปกติ แต่ STROKE จริง จะทำให้เซลล์สมองตายถาวร
อ่านเพิ่มเติม
ตอบทุกข้อสงสัย TIA โรคสมองขาดเลือดชั่วคราวคืออะไร
Q: STROKE แบบไหนอันตรายที่สุด
A: Hemorrhagic Stroke (หลอดเลือดสมองแตก) อันตรายมากที่สุด เพราะเลือดที่ออกจะกดเบียดสมอง เกิดอาการซ้ำซ้อน และรักษายากกว่า
Q: ตรวจสุขภาพสมอง ควรตรวจอะไร
A: ควรตรวจ CT Scan / MRI สมอง ควบคู่กับการตรวจเลือด ไขมัน ความดัน เพื่อประเมินความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
ตรวจรักษาที่ศูนย์ระบบโรคหลอดเลือดสมอง
หากคุณหรือคนในครอบครัวมีอาการสงสัย STROKE หรือมีปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดัน เบาหวาน ไขมันสูง อย่ารอจนสายเกินไป ปรึกษาและตรวจที่ศูนย์ระบบโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อยดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางสมองและระบบประสาท พร้อมเครื่องมือมาตรฐานสูงครบวงจร
ศูนย์ระบบโรคหลอดเลือดสมอง
โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
โทร: 02-441-7899 หรือ1792
แผนที่: ใกล้พุทธมณฑล – หนองแขม – อ้อมน้อย
นัดหมายออนไลน์: Line